ใครว่าเราไม่สามารถหยุดเวลาความสวยความงามได้ การฉีดฟิลเลอร์ (Dermal Filler) คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมอบผิวสวยใสอ่อนกว่าวัย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ร่องแก้มตอบ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่ต้องพักฟื้นนาน
แต่เพียงผิวสวยคงไม่พอ เพราะสุขภาพกับความปลอดภัยต้องมาก่อน วันนี้เรา AMARANTE CLINIC มีคู่มือดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ มาฝาก เพื่อให้คุณสวยอย่างมั่นใจ พร้อมเคล็ดลับดี ๆ ที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราไปนาน ๆ อย่างที่ควรเป็นกันค่ะ
สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีดจะมีอาการอักเสบเล็กน้อย เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของร่างกายที่จะพบอาการบวม แดง ช้ำ หรือคันเล็กน้อยในจุดที่ฉีดเป็นปกติ โดยอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงเองได้ภายใน 2-3 วัน หากไม่ดีขึ้นอาจปรึกษาแพทย์เพื่อรับยามาทานเพิ่ม
ในบางคนอาจปวดจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ในคืนแรก เพราะอาการระคายเคืองเล็กน้อยของเส้นประสาทใต้ผิวหนัง กรณีมีอาการปวดมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ตามคำแนะนำของแพทย์
หรือถ้าบริเวณที่ฉีดมีอาการบวมตึง จนเวลายิ้มหรือเคลื่อนไหวใบหน้าแล้วรู้สึกตึง ๆ ชา ๆ เป็นเพราะมาจากตัวฟิลเลอร์กับน้ำเกลือที่ฉีดเข้าไป ไม่ต้องตกใจเพราะสามารถคลายลงเองได้ภายใน 1-2 วัน
ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองด้วย เพราะหากมีอาการบวมแดงเป็นวงกว้าง เจ็บปวดมาก หรือคลำเจอก้อนแข็งบริเวณที่ฉีด เหตุผลอาจเกิดจากฟิลเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด หรือถ้ามีอาการคัน ผื่นแดงร่วมด้วย เป็นไปได้ว่าอาจแพ้สารในฟิลเลอร์ แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และป้องกันผลข้างเคียงที่อันตราย
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ตามช่วงเวลา
หลังฉีดฟิลเลอร์ การปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาก็มีความต่างกันไป ซึ่งการใส่ใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ล้วนช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปและยึดเกาะผิวหนังได้นานขึ้น รวมทั้งย่นระยะเวลาการบวม กับช้ำได้ด้วย
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ให้เว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีด เพื่อลดโอกาสเชื้อโรควิ่งเข้าสู่ชั้นผิวหนัง
- ไม่แตะต้อง นวด คลึง หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายและเสียรูปทรงของฟิลเลอร์
- เมื่อครบ 1 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถดึงพลาสเตอร์หรือเทปที่ปิดรูเข็มออกได้
- กรณีที่ยังไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ แนะนำให้รับประทานทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 24-48 ชั่วโมง
ช่วง 24-48 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์ คือระยะเวลาที่บริเวณที่ฉีดจะเริ่มมีอาการบวมหรือช้ำขึ้นกว่าตอนแรก ทำตามได้ต่อไปนี้
- ประคบเย็นบริเวณที่บวมเพื่อบรรเทาอาการ โดยห่อเจลหรือน้ำแข็งด้วยผ้าสะอาดแล้วประคบเบา ๆ อย่ากดแรง
- พักผ่อนในห้องเย็นและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าร้อนหรือเหงื่อออก เช่น อบไอน้ำ ซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า อย่าทาครีมหรือสัมผัสบริเวณรอบรูเข็มโดยไม่จำเป็น เพื่อลดการระคายเคืองและการปนเปื้อนของเชื้อโรค
การปฏิบัติตัวช่วงหลังฉีดฟิลเลอร์นี้ จะเร่งช่วยให้อาการบวมและช้ำบรรเทาลงได้เร็วขึ้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการเข้าที่ของฟิลเลอร์ ในลำดับต่อไป
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-14 วัน
ช่วง 3-14 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการปวด บวม หรือช้ำจะเริ่มบรรเทาลง ซึ่งฟิลเลอร์จะค่อย ๆ เข้าที่และดีขึ้นเรื่อย ๆ
- การขยับใบหน้าบ่อย ๆ เช่น การสั่งงานกล้ามเนื้อรอบดวงตา พูดคุยหรือหัวเราะมากเกินไป อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์หลังฉีดเคลื่อนตำแหน่งได้ แนะนำว่าควรระมัดระวัง และพยายามทำใบหน้านิ่ง ๆ ในช่วง 3 วันแรก
- หมั่นดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร เพิ่มความชุ่มชื้น เพราะส่งผลให้ผิวเต่งตึงและช่วยคงโครงสร้างฟิลเลอร์ให้อยู่ตัวนานขึ้นได้
- ทานอาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมทานวิตามินที่ช่วยลดอาการบวมอักเสบ และส่งเสริมให้ใบหน้ากระชับ เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น
- ออกกำลังกายเบา ๆ ตามปกติได้ แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวร่างกายหนัก เพราะอาจทำให้หน้าสะบัดหรือกระทบกระแทก
- เลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด มัน หวาน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจไปกระตุ้นการอักเสบ ส่งผลให้อาการบวมนานมากขึ้น
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
เมื่อผ่านไป 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ ผลจากการฉีดจะเริ่มอยู่ตัวเต็มที่ ฟิลเลอร์จะกลมกลืนไปกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ผิวที่เติมเต็มจะเรียบเนียน อิ่มฟู เป็นธรรมชาติ และไม่เห็นร่องรอยการฉีดอีกต่อไป ด้วยการดูแลตัวเองหลังฉีด ตามนี้
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวตามปกติ และหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องลงลึกถึงชั้นหนังแท้ เช่น เซรั่ม/ครีมที่มีกรดหรือเรตินอยด์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
- งดทำทรีตเมนต์/เลเซอร์ที่ให้ความร้อนชั้นลึก หรือทรีตเมนต์ที่ทำให้หน้ามีการขยับมาก เช่น RF, Thermage หรือ Ulthera อย่างน้อย 1 เดือน
- สวมแว่นกันแดดและทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ต้นเหตุที่ทำให้ริ้วรอยเพิ่มขึ้น
- ดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวันสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและความอวบอิ่มของผิว ช่วยให้ฟิลเลอร์คงความอ่อนนุ่มและไม่สลายไปเร็ว
- ตรวจสุขภาพผิวหน้ากับแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อเช็คสภาพผิวและผลของฟิลเลอร์ พร้อมรับคำแนะนำการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมต่อเนื่อง สามารถช่วยให้ผิวหลังฉีดฟิลเลอร์ดูดีและคงอยู่ได้นานตามที่ควรจะเป็น เพราะปกติฟิลเลอร์ไฮยารูโรนิกแอซิดส่วนใหญ่ จะมีอายุใช้งานประมาณ 9-12 เดือน แต่ถ้าดูแลดีก็สามารถยืดเวลาคงตัวของฟิลเลอร์ให้นานขึ้นอีกได้
ข้อห้ามทั่วไป หลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ไม่ควรทำ
ต่อจากข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ คือข้อห้ามกับข้อควรระวังบางอย่างที่ต้องปฎิบัติตามด้วย เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หรือทำให้ประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ลดลงได้
- ช่วงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรแตะ สัมผัส นวด กด หรือขยำบริเวณที่ฉีดแรง ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- อย่าแกะเกาบริเวณที่ฉีด แม้จะมีอาการคันเล็กน้อย ควรปล่อยให้หายเอง
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่รอยเข็มฉีด
- งดทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้ามีเหงื่อหรือสกปรกอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น อบไอน้ำ ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ฯลฯ
- งดให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรง เช่น นั่งหน้าเตา ตากแดด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าที่ควรเป็น
- งดการดื่ม/กิน แอลกอฮอล์ ของหมักดอง และอาหารรสจัด เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดการอักเสบบวม
- ไม่ทำทรีตเมนต์ความงามที่มีความร้อนสูงหรือเลเซอร์ในช่วง 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์
- ไม่นวดหน้าหรือกรอผิวหน้า และเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กรด เรตินอยด์ หรือสารฟอกสีผิว อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์
หากมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องในการดูแลตัวเองต่อไป
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด
นอกจากวิธีดูแลทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ ในแต่ละบริเวณที่ฉีดก็มีข้อปฏิบัติเฉพาะเจาะจง ที่ต่างกันออกไป เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อฟิลเลอร์ที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ซึ่งมีความละเอียดอ่อนของเนื้อเยื่อไม่เหมือนกัน และลักษณะเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ ก็ต่างกันด้วย
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ให้ถูกวิธี ด้วยความเข้าใจถึงข้อจำกัดและข้อควรระวังเฉพาะของแต่ละส่วน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งหรือผิดรูปทรงของฟิลเลอร์ ส่งผลให้ผลลัพธ์คงความสวยงามได้อย่างเป็นธรรมชาติและยาวนาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
ปากเป็นจุดที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยสุด และเป็นจุดสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มากที่สุด ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม การพูดคุย หรือแม้กระทั่งการจูบ ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่ายกว่าจุดอื่น รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนตำแหน่งของฟิลเลอร์ได้เช่นกัน
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก ควรงดอาหารที่ต้องเคี้ยวหนัก ๆ งดการใช้จุกขวดหรือหลอดดูดน้ำ งดจูบปาก หรือเม้มปากแรง ๆ
- ควรงดทาปากหรือลิป 24 ชั่วโมง หลังฉีดฟิลเลอร์
- ระวังไม่ให้ปากโดนความร้อน จากอาหารหรือเครื่องดื่ม อย่างน้อย 2-3 วัน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดแผลที่ปาก เช่น งดแคะหรือดึงเนื้อปาก งดกัดปากตัวเองหรือกัดของแข็ง ๆ เป็นต้น
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ไม่ให้แห้งแตก ซึ่งช่วยให้ผลคงอยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
บริเวณใต้ตาเป็นผิวหนังที่บอบบางที่สุด เป็นจุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนแรง ๆ รวมถึงการใช้สารเคมีหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมรุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบของผิวหนัง เพราะอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่งหรือสลายเร็วขึ้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ไม่แต่งตา ไม่ทาครีมบำรุงผิว หรือทำความสะอาดรอบดวงตา อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส ถู นวด กด หรือขยี้บริเวณใต้ตาอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์หลังฉีดเคลื่อนตำแหน่ง
- งดสวมคอนแทคเลนส์ 1-2 วัน เพื่อไม่ให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ๆ แนะนำให้สวมแว่นกันแดดเมื่อออกนอกบ้านเสมอ
- ไม่ควรทาครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของสารเคมี อย่าง กรดวิตามินเอ หรือสารฟอกสีผิว ไปอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- งดงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่เกี่ยวกับสายตา เช่น การอ่านหนังสือ เล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เพื่อป้องกันการเมื่อยล้าหรือโดนแสงสีฟ้าจากหน้าจอ
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง
คางเป็นบริเวณที่รูปทรงและความสมมาตรมีความสำคัญอย่างมาก เพราะมีผลต่อความสวยงามของใบหน้าทั้งหมด หากคางเบี้ยว บิดเบี้ยว หรือไม่ได้รูป จะส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษหลังฉีดฟิลเลอร์คาง คือเรื่องของแรงกดทับนั่นเอง
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- ห้ามนวด บีบ หรือทุบ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง
- หลีกเลี่ยงการเท้าคาง เพื่อไม่ให้เกิดแรงกด เพราะอาจทำให้คางเบี้ยว
- ไม่ควรนอนคว่ำ นอนตะแคง หรือนอนหนุนหมอนใบใหญ่ที่ทำให้เงยหน้ามาก ๆ แนะนำให้นอนหงายและหนุนหมอนแบนราบไปก่อน 3-4 วันแรกหลังฉีดฟิลเลอร์
- ระวังอย่าให้คางกระแทกโดนพื้นหรือโดนกระแทกแรง ๆ บริเวณคาง
- ไม่สวมหมวกกันน็อคที่รัดแน่นเกินไป
- ระวังอย่าให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงมาโดดใส่หรือกระโดดกระแทกเข้าที่คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
แก้มเป็นจุดที่มีเนื้อเยื่อไขมันและมัดกล้ามเนื้ออยู่เยอะ เวลายิ้มหรือหัวเราะจะมีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อค่อนข้างมาก หากอยากให้ร่องแก้มที่เติมฟิลเลอร์เข้าไปคงรูปสวยได้นาน ก็ควรระวังเรื่องการเคลื่อนไหวของแก้ม
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ช่วง 2-3 วันแรก พยายามอย่าหัวเราะหรือยิ้มกว้าง ๆ อย่าอ้าปากหวอหรือหาวนาน ๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มมีการยืดหดมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส จับ บีบ นวด ขยำแก้มแรง ๆ หรือนอนตะแคงกดทับแก้ม เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่ง
- อย่าแปรงฟันแรง ๆ และบ้วนปากแรง ๆ บริเวณฟันกรามหลัง เพราะอาจทำให้เกิดแรงดันต่อแก้มมากเกินไป
- ระวังอย่าให้แก้มโดนความร้อนจากไอน้ำ ควันไฟ หรือแสงแดดจัด ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หน้าผากเป็นจุดที่ต้องระวังเรื่องการสัมผัสที่สุด เพราะเป็นบริเวณกว้าง และมักจะถูกแรงกดทับได้ง่ายจากกิจวัตรประจำวันหลายอย่าง หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้ว จำเป็นต้องหมั่นสังเกตและระวังตัวเป็นพิเศษด้วย
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- อย่าแตะ จับ บีบ นวด กดทับ หรือขยำหน้าผาก โดยเฉพาะช่วง 3-4 วันแรก เพื่อป้องกันฟิลเลอร์กระจายหรือผิดรูป
- พยายามอย่าขมวดคิ้ว เลิกคิ้ว หรือทำหน้ายู่ยี่บ่อย ๆ
- ระวังอย่าให้หน้าผากกระแทกเข้ากับสิ่งของหรือคนอื่น เช่น การก้มหน้าลงต่ำ ๆ การอุ้มเด็ก หรือการเข้าไปในที่แคบ ๆ ก็ให้ระวัง
- ไม่ควรสวมหมวก ไม่คาดผ้าโพกหัว หรือผูกผมแน่น ๆ จนรัดหน้าผากในช่วงแรก
- ไม่นอนคว่ำหน้า ไม่ซบหน้าลงกับโต๊ะหรือพนักเก้าอี้ และอย่าใช้หน้าผากกดประตูเวลาเปิดออก
- ระวังอย่าให้แสงแดด ลม ฝุ่น ควัน โดนหน้าผากโดยตรง แนะนำให้ทาครีมกันแดดหรือปิดหน้าให้มิดชิด
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
บริเวณขมับนั้นมีกล้ามเนื้อและเส้นเลือดอยู่เยอะ อีกทั้งเป็นจุดที่ไวต่อการสัมผัสเพราะเป็นจุดรวมของเส้นประสาท การฉีดฟิลเลอร์อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวตามมาได้ ทำให้การใช้ชีวิตหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- เลี่ยงการสัมผัสโดนแรง ๆ งดจับ บีบ นวด กดขมับ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- หากรู้สึกปวดหัวหรือปวดตาแบบไม่มาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- งดงานหรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ หรือยกของหนัก ๆ เพราะอาจทำให้ความดันในสมองเพิ่มสูงขึ้นและไปกระตุ้นอาการปวดหัว
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด ร้อนอบอ้าว หรือที่มีเสียงดังมาก ๆ
- ไม่สวมแว่นตาหรือแว่นกันแดดที่ขาแว่นรัดแน่นเกินไป และไม่คาดผมหรือโพกหัวแน่น ๆ
- พยายามผ่อนคลาย ไม่เครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
แนะนำ หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการปวดมากผิดปกติ มีไข้สูง ปวดตาจนมองแสงไม่ได้ มีอาการชาหรืออ่อนแรงของใบหน้า อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย ซึ่งต้องไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด
การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นศัลยกรรมความงามที่ได้ผลชัดเจน และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนเช่นกัน สำคัญสุด คือต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ไม่ควรดูแลตัวเองตามใจฉัน และเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองเท่านั้น เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ดูดีที่สุดค่ะ
คำถามที่พบบ่อย หลังฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน
ทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ จะมีอาการบวม 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของร่างกายแต่ละบุคคล ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวล แต่หากบวมนานเกิน 7 วัน และมีอาการอักเสบมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์นอนตะแคงได้ไหม
ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนอนตะแคงบนข้างที่ฉีด เพราะอาจเกิดแรงกดทับ ส่งผลให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่งได้ แนะนำให้นอนหงายหนุนหมอน 2-3 ใบ และเป็นหมอนข้างหนุนซ้ายขวา เพื่อประคองใบหน้าไว้ตรงกลาง
หลังฉีดฟิลเลอร์ล้างหน้าได้ไหม
หลังฉีดฟิลเลอร์ 3-6 ชั่วโมง หรือเมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ ด้วยน้ำอุ่นและใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนได้ เช่น โฟมล้างหน้า/เจลล้างหน้า แต่ห้ามถูหน้าแรง ๆ บริเวณที่ฉีด และซับหน้าเบา ๆ ให้แห้ง
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง
ช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ทุกชนิด อาหารรสจัด (เผ็ด เปรี้ยว เค็ม) อาหารหมักดอง รสชาติฉุน และเครื่องดื่มร้อนจัด/เย็นจัด เพราะอาจไปกระตุ้นให้เกิดการบวมอักเสบ
ส่วนในระยะยาว ไม่มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร สามารถกินได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ความอิ่มฟู ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
สรุป
สรุปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรกที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่างการหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง การระมัดระวังไม่ให้สัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีด
สำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์ คือต้องเข้าใจและปฏิบัติตัวให้ถูกต้องในช่วงหลังการฉีดฟิลเลอร์ เลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ไปถึงคอยสังเกตอาการและติดตามความเปลี่ยนแปลงของตัวเองอย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันทีค่ะ