โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก มีทรงไหนบ้าง เจ็บไหม บวมกี่วัน [พร้อมรีวิว]

ปากที่อวบอิ่ม ชุ่มชื้น เป็นทรงสวยได้รูป จะช่วยให้เราดูมีเสน่ห์และน่าดึงดูด ในทางกลับกัน ปากที่มีปัญหา เช่น บางเกินไป เบี้ยว แห้ง คล้ำ มุมปากตก ฯลฯ ก็อาจทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ แต่ปัญหาเหล่านี้ก็อาจแก้ได้โดยเร็วและง่าย ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งทาง Amarante Clinic ก็ได้นำข้อมูลต่างๆ เช่น มีทรงไหนบ้าง เจ็บไหม บวมกี่วัน ฯลฯ พร้อมด้วยรีวิวจากเคสจริงมาให้ชมกันในบทความนี้แล้ว

โปรแกรม ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร

ฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) คือ สารเติมเต็มผิวใกล้เคียงธรรมชาติประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปาก เพื่อช่วยปรับรูปปากให้อิ่มสวย ได้รูป ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ส่งผลให้ปากดูมีเสน่ห์และสดใส ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง [พร้อมรีวิว]

ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยอะไร เหมาะกับใคร

การฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยในการปรับรูปปาก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก และยังสามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณร่องมุมปากได้ด้วย โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้เป็นพิเศษ

1. ผู้ที่มีปากบาง มีเนื้อปากน้อย

โดยอาจเป็นจากพันธุกรรม คือมีปากบางตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หรือเกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้มีคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวหนังบริเวณรอบริมฝีปากจึงเสียรูปทรงและความกระชับ ส่งผลให้ริมฝีปากดูบางลง ปัญหานี้ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ก็จะสามารถแก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อปรับทรงปากให้ดูหนา อิ่มฟู ได้รูปมากขึ้น

2. ผู้ที่มีปากเบี้ยว ปากไม่เท่ากัน

ปัญหาปากเบี้ยว ปากไม่เท่ากัน หากไม่ได้รุนแรงมาก และไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคอันตราย ก็จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งก็จะช่วยให้ทรงปากดูสมมาตรและได้รูปขึ้น ปัญหาสูญเสียความมั่นใจจากปากเบี้ยวก็จะคลายลง

3. ผู้ที่มีมุมปากตก ทำให้ใบหน้าดูบูดบึ้ง

ปัญหามุมปากตก ทำให้ใบหน้าดูบูดบึ้ง ชวนเข้าใจผิด อาจเป็นมาตั้งแต่เกิด หรืออาจเกิดจากผิวบริเวณแก้มหย่อนคล้อย จากอายุที่มากขึ้นหรือการลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป ปัญหานี้ก็สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากเช่นกัน

4. ผู้ที่มีปากแห้ง แตก ลอก เป็นร่อง

เนื่องจากกรดไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของริมฝีปากได้ด้วย ส่งผลให้ปากที่แห้ง แตก ลอก เป็นร่อง กลับมาดูเรียบเนียน ละมุน และมีสุขภาพดีมากขึ้น

5. ผู้ที่มีปากดำ ปากคล้ำ

ฤทธิ์การเติมเต็มปากให้อิ่มฟูและชุ่มชื้นของฟิลเลอร์ ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาปากดำ ปากคล้ำ ให้กลับมาดูชมพูขึ้น สดใสฉ่ำวาวขึ้น และดูสุขภาพดีมากขึ้น จึงสามารถช่วยเรียกความมีเสน่ห์และความมั่นใจให้กลับคืนมาได้

6. ผู้ที่ต้องการปรับรูปปากให้สวยได้รูป

หลายคนอาจไม่ได้มีปัญหาที่เด่นชัด แต่อยากปรับทรงปากให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ปากก็สามารถตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เช่นกัน โดยปัจจุบันก็จะมีทรงปากยอดนิยมให้เลือกมากมาย เช่น ทรงปากสายฝอ ทรงปากเกาหลี ทรงปากกระจับหรือปีกนก เป็นต้น

7. ผู้ที่ต้องการเสริมรูปปากเพื่อความเป็นมงคล

สำหรับผู้ที่เชื่อในเรื่องของรูปปากที่นำมาซึ่งโชคลาภการเงิน ช่วยในการพูดการเจรจา การฉีดฟิลเลอร์ปากก็ยังสามารถช่วยปรับรูปปากให้เป็นมงคลมากขึ้น ซึ่งก็คือรูปปากที่มีขนาดสมส่วน ไม่บางหรือหนาจนเกินไป ไม่แห้ง ไม่ดำคล้ำ ไม่มีเส้นริ้วรอย มุมปากไม่คว่ำ

8. ผู้ที่มีร่องน้ำหมาก มีริ้วรอยมุมปาก

ร่องน้ำหมากหรือร่องมุมปาก จะเกิดจากความเสื่อมของชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และกระดูกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีปัจจัยเร่ง เช่น อายุที่มากขึ้น แสงแดด ความเครียด ควันบุหรี่ ฯลฯ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องน้ำหมากก็จะช่วยเข้าไปลดริ้วรอย ส่งผลให้ภาพรวมใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์มากขึ้น

ทรงฉีดปากยอดนิยม

ปัจจุบันก็มีศัพท์เรียกทรงฉีดปากใหม่ๆ ออกมามากมาย แต่ที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นทรงฉีดปากเหล่านี้

• ทรงฉีดปากสายฝอ คือทรงปากที่มีริมฝีปากอวบอิ่ม เห็นขอบปากชัด และมักจะไม่มีติ่งกระจับปากด้านบน ตัวอย่างผู้ที่มีทรงปากลักษณะนี้ก็อย่างเช่น Kylie Jenner และ Angelina Jolie
• ทรงฉีดปากเกาหลี เป็นคำกว้างๆ อาจหมายถึงทรงปากที่มีขอบปากเรียวเหมือนกระจับหรือปีกนก หรืออาจหมายถึงทรงปากที่ดูอวบเต็มเหมือนลูกเชอร์รี่ 2 ลูก มาประกบกันก็ได้
• ทรงฉีดปากธรรมชาติ คือการฉีดปากที่เน้นปรับรูปปากให้ดูอวบอิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และจะเน้นการบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นดูมีสุขภาพดีมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลดีและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก็จะมีข้อแนะนำดังนี้

• งดยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแน็ก เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะยากลุ่มนี้จะทำให้เสี่ยงเลือดออกมากขึ้น
• งดอาหารเสริมที่มีฤทธิ์รบกวนการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียมสกัด โสมสกัด ใบแปะก๊วยสกัด น้ำมันพริมโรส น้ำมันปลา วิตามินอี และ St. John’s Wort เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
• งดการรบกวนบริเวณริมฝีปากรุนแรง เช่น แกะปาก สักปาก แว็กซ์ขนบริเวณรอบปาก เป็นเวลา 3 วันก่อนฉีด
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกาย อบไอน้ำ ซาวน่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
• แจ้งข้อมูลแพทย์ให้ครบถ้วนแต่เนิ่นๆ ซึ่งได้แก่ ประวัติการทำหัตถการที่ผ่านมา ประวัติการแพ้ โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ใช้ เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินและให้คำแนะนำในการเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก

1. ทำการประเมินวิเคราะห์ปัญหากับแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
2. เช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อนเข้ารับบริการ เพื่อความสะอาดและปลอดภัย
3. แปะยาชาก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 30 นาที
4. แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อลดอาการเจ็บจากการฉีดฟิลเลอร์
5. แพทย์จะเริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ให้กับผู้เข้ารับบริการ
6. หลังจากฉีดฟิลเลอร์แพทย์จะทำการประคบเย็น พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังจากฉีดฟิลเลอร์

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปากก็จะมีข้อห้ามและการดูแลตัวเองที่ควรปฏิบัติดังนี้

• รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
• ดูแลร่างกายให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ทั้งจากอาหารและน้ำดื่ม เพราะฟิลเลอร์จะอาศัยการจับกับโมเลกุลน้ำ เพื่อให้อิ่มฟูได้รูปและสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน
• งดทาลิปสติก ภายในช่วง 12 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
• เลี่ยงการขยับปากเยอะ เช่น ใช้หลอดดูด สูบบุหรี่ ยิ้มกว้าง อ้าปากกว้าง ภายใน 2 วันหลังฉีด เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
• เลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ อย่างน้อย 2 วันหลังฉีด เพราะจะทำให้ช้ำง่ายขึ้น และอาจทำให้ขาดสติในการควบคุมดูแลตัวเอง
• เลี่ยงอาหารร้อน อาหารเผ็ด อาหารรสจัด ภายในช่วง 3 วันหลังฉีด เพื่อไม่ให้กระทบฟิลเลอร์
• เลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อน เช่น โดนแดด น้ำอุ่น น้ำร้อน ไดร์เป่าผม ซาวน่า ไอจากการทำอาหาร ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด
• อาจประคบเย็นเมื่อมีอาการบวม โดยใช้ Cool Pack หรือผ้าสะอาดห่อถุงน้ำแข็ง

ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน

ในช่วงแรกๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ ปากอาจมีอาการบวม ช้ำ ปวดได้เล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้น และจะเข้าที่เต็มที่ภายในประมาณ 7-14 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานกี่เดือน

ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดปากจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีด และสภาพร่างกายของแต่ละคน

ทั้งนี้ ฟิลเลอร์บริเวณปากจะค่อนข้างสลายเร็วกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากปากเป็นอวัยวะที่มีการขยับเคลื่อนไหวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม พูด แสดงสีหน้าอารมณ์ เป็นต้น

ฉีดฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม

เนื่องจากกรดไฮยาลูรอนิคจะเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในผิว ทั้งยังสามารถสลายได้เอง การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงนับว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ก็ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น

ในกรณีที่แพทย์ผู้ฉีดขาดความชำนาญ หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียและอันตรายต่างๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ฟิลเลอร์ย้อย ฟิลเลอร์ไหล เนื้อฟิลเลอร์ขรุขระเป็นคลื่น เกิดตุ่มใสๆ ที่ปาก ฉีดฟิลเลอร์โดนเส้นเลือด เกิดเส้นเลือดอุดตัน อักเสบ เนื้อตาย เป็นต้น

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม

แม้ว่าบริเวณริมฝีปากจะเป็นจุดที่บอบบาง ไวต่อความรู้สึก แต่เพราะก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา และฟิลเลอร์ที่ใช้ก็มียาชาผสมอยู่ด้วย ขณะฉีดฟิลเลอร์ปากผู้รับบริการจึงรู้สึกเจ็บน้อยมาก หรือบางท่านที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยก็มี

ราคาโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์จะคิดราคาเป็นต่อ 1 CC จึงต้องคูณปริมาณที่ใช้ทั้งหมดเพื่อให้ได้ราคารวมออกมา ยกตัวอย่างเช่น หากฟิลเลอร์ปาก 1 CC ราคา 15,000 บาท และต้องใช้ทั้งหมด 2 CC ราคารวมก็จะคิดได้เป็น 30,000 บาท ทั้งนี้ ราคาการฉีดฟิลเลอร์ปากก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

1. ฟิลเลอร์ที่ใช้ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ทั้งในด้านความยืดหยุ่นและความทนทาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การรักษาและความปลอดภัย การเลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงจึงมีผลทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2. มาตรฐานของสถานพยาบาล สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายประการ ได้แก่ มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐานทางการแพทย์ มีทีมบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมและมีประสบการณ์สูง ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีผลต่อต้นทุนทั้งสิ้น
3. ความเชี่ยวชาญของแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์จะถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำหัตถการที่มีคุณภาพ โดยมีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด การวางแผนการทำหัตถการที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การเลือกชนิดและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม การใช้เทคนิคการฉีดที่แม่นยำและปลอดภัย ตลอดจนการติดตามผลหลังทำหัตถการ

การเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ควรเลือกเฉพาะจากราคาถูก เพราะมีโอกาสสูงที่จะพบปัญหาต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ปลอม แพทย์เถื่อน แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ ซึ่งในกรณีที่เกิดปัญหากับใบหน้า นอกจากจะต้องเสียเงินเสียเวลาเพื่อแก้ไขแล้ว ก็ยังอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจและเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์ปากฉีดกี่ CC

ฉีดฟิลเลอร์ปากใช้กี่ CC จะต้องขึ้นอยู่ลักษณะและความหนักเบาของปัญหา โดยจะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินอย่างละเอียดก่อนฉีด

แต่โดยทั่วไปแล้ว การฉีดปากมักจะเริ่มฉีดที่ 1 CC ก่อน หลังจากนั้นก็จะนัดมาประเมินใหม่ ซึ่งถ้าต้องการเติมก็จะฉีดเพิ่มอีก 1 CC รวมกันเป็น 2 CC แต่ถ้าจะฉีดมากกว่านี้ แพทย์ไม่แนะนำ เพราะจะทำให้ดูล้น ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี

เนื่องจากปากจะมีการเคลื่อนไหวเยอะและมีผิวบาง จึงต้องเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อค่อนข้างนิ่ม และมีความละเอียดและยืดหยุ่นสูง ตัวอย่างยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดปากก็อย่างเช่น

• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น Volift เหมาะสำหรับการเน้นเพิ่มวอลลุ่ม เพื่อปรับทรงปาก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
• ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น Volbella เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการวอลลุ่มมาก เน้นทำให้ปากชุ่มชื้น อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี

การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจและปลอดภัย ก็ควรพิจารณาคลินิกจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้

• ได้รับอนุญาตการประกอบกิจการและดำเนินการคลินิก ตามกฎหมายประเทศไทย การเปิดคลินิกจะต้องได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข คลินิกใดก็ตามที่เปิดให้บริการโดยพลการก็จะถือเป็นคลินิกเถื่อน
• ฟิลเลอร์และอุปกรณ์ที่ใช้ได้มาตรฐาน ต้องใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. มีการจัดเก็บรักษาที่ดี ยังมีสภาพดี ไม่หมดอายุ รวมถึงใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน
• แพทย์ผู้ให้บริการมีความชำนาญ การฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้มั่นใจถึงผลลัพธ์และความปลอดภัยได้มากขึ้น ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ หรือในกรณีที่แย่ไปกว่านั้นอย่างการฉีดกับแพทย์เถื่อน ก็จะทำให้เสี่ยงเกิดอันตรายได้
• มีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ปากที่น่าพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือคลิปวิดีโอก่อน-หลังการฉีด ซึ่งจะช่วยให้ผู้รับบริการเกิดความมั่นใจและมีความคาดหวังที่ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น
• มีจรรยาบรรณและความจริงใจ คลินิกที่ดีจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงและครบถ้วนแก่ผู้รับบริการ ไม่ยัดเยียดขายบริการที่ไม่จำเป็น หรือใช้ถ้อยคำการขายหรือโฆษณาชวนเชื่อที่มีลักษณะโอ้อวดเกินจริง

รีวิวโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ Amarante Clinic

ภายใต้การนำของ นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต (คุณหมอต้น) ตำแหน่ง AMI Trainer ประจำประเทศไทย Amarante Clinic ได้รับการยอมรับในฐานะศูนย์ความเป็นเลิศด้านการฉีดฟิลเลอร์ที่มียอดการใช้ฟิลเลอร์มากเป็นอันดับต้นๆ ของไทยหลายปีติดต่อกัน

ความไว้วางใจที่ทาง Amarante Clinic ได้รับจากผู้ใช้บริการจำนวนมากนั้นไม่ได้เกิดจากแค่เพียงความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เท่านั้น แต่ยังเป็นผลมาจากปรัชญาการให้บริการที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของผู้รับบริการเป็นสำคัญ โดยแสดงออกผ่านการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนตรงไปตรงมา การนำเสนอผลลัพธ์ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง การแจ้งราคาอย่างชัดเจนก่อนการรักษา ตลอดจนการใส่ใจดูแลอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน