ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?
ฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “HA Filler” เป็นสารสังเคราะห์ที่สร้างขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับสารไฮยาลูรอนที่มีอยู่ภายในร่างกาย จัดเป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ที่ร่างกายของมนุษย์มีอยู่ตามธรรมชาติ โดยพบมากที่บริเวณชั้นผิวหนังสูงถึง 50% และสามารถพบได้ข้อต่อกระดูกและวุ้นตา (Vitreous Humor) โดยจุดประสงค์ของฟิลเลอร์นั้นมีเพื่อการชะลอวัย เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก หรือใช้ในการปรับโครงสร้างใบหน้า
หลักการทำงานของฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยารูลอนิกเมื่อถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวแล้ว ก็จะไปจับกับโมเลกุลน้ำและอิ่มฟูขึ้น ส่งผลให้รอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยร่องลึกของผิวบริเวณนั้นลดลง ทั้งยังช่วยให้ผิวดูอิ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น
ส่วนฟิลเลอร์ชนิดอื่นนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากกว่าการเติมเต็มผิวโดยตรง ซึ่งแม้จะมีข้อดีในแง่ของการให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และอาจช่วยแก้ปัญหาของผิวในเชิงโครงสร้างได้ดีกว่า แต่ก็จะพ่วงมาด้วยข้อเสียต่างๆ เช่น ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลเต็มที่ มีความเสี่ยงสูงกว่า (เนื่องจากเป็นสารสังเคราะห์หรือเป็นสารธรรมชาติที่ปกติไม่ได้พบในชั้นผิว) และแก้ไขได้ยากกว่า (ถ้าเป็นกรดไฮยารูลอนิก จะสามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ในกรณีที่ต้องการแก้)
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ช่วยอะไร?
ฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยเข้าไปเติมเต็มใบหน้าให้ผิวอิ่มฟูเต็มขึ้น ด้วยการฉีดเติมเต็มเข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังและเติมเต็มบริเวณฐานกระดูกที่ยุบตัว แก้ไขริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าให้ได้รูปทรงที่เหมาะสม สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทันทีหลังทำโดย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ ยังมีความสามารถในการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เพิ่มมากขึ้น ผิวจึงอิ่มฟู เต่งตึง กระจ่างใสไม่หมองคล้ำได้อีกด้วย ดังนั้น การทำโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์ จึงเป็นทางเลือกความงามสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลตนเองแบบที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม
ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารสังเคราะห์ที่ถูกสร้างมาให้มีความใกล้เคียงกับกรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ที่มีอยู่ตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ เป็นหัตถการด้านความงามที่ไม่ต้องมีการผ่าตัด หลังทำเห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่มีรอยช้ำหรือผลกระทบที่รบกวน เป็นบริการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ฟิลเลอร์ (Filler) มีกี่ชนิด?
หลักๆ แล้ว ฟิลเลอร์จะแบ่งตามสารที่ใช้ได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่
- กรดไฮยารูลอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในหลายๆ อวัยวะ โดยเฉพาะผิวหนัง ดวงตา และข้อกระดูก แต่ร่างกายของเราจะผลิตได้ลดลงตามอายุ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเติมเต็มผิวให้ดูอิ่ม มีความชุ่มชื้น มีริ้วรอยลดลง ทั้งยังมีข้อดีคือเห็นผลได้ทันที ฉีดได้กับหลายจุด และมีความปลอดภัยสูง กรดไฮยารูลอนิกจึงเป็นชนิดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยการฉีดแต่ละครั้งจะอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี
- แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในกระดูก เมื่อฉีดแล้วจะช่วยเติมเต็มผิว ทำให้ริ้วรอยดูลดลง และยังมีฤทธิ์ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ได้นานไม่เกิน 2 ปี
- กรดพอลีแอลแลคติค (Poly-L-Lactic Acid หรือ PLLA) เป็นฟิลเลอร์ชนิดสารสังเคราะห์ มีกลไกออกฤทธิ์หลักๆ คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูกระชับและอิ่มฟูขึ้น แต่จะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลค่อนข้างนาน (ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 เดือน) ฟิลเลอร์ชนิดนี้มักให้ผลลัพธ์คงอยู่นานไม่เกิน 2 ปี
- โพลิเมทิลเมทาไครเลต (Polymethylmethacrylate หรือ PMMA) เป็นสารสังเคราะห์อนุภาคทรงกลมขนาดเล็ก มักใช้ผสมผสานกับคอลลาเจนในรูปแบบเจล เมื่อฉีดแล้วจะช่วยลดริ้วรอยผ่าน 2 กลไก ได้แก่ ช่วยเติมเต็มผิวในระยะสั้นด้วยคอลลาเจนในรูปแบบเจล และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวด้วยสารสังเคราะห์ ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ยาวนาน โดยอาจนานถึง 5 ปี หรือมากกว่านั้น
ทั้งนี้ เนื้อหาในบทความนี้จะเน้นไปที่กรดไฮยารูลอนิกเป็นหลัก เพราะเป็นชนิดฟิลเลอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
ฟิลเลอร์ (Filler) มีกี่แบบ?
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
เป็นสารเติมเต็มประเภทสลายตัวเองได้ และสามารถใช้ยาสลายได้ ไม่มีตกค้างภายในร่างกาย และเมื่อฉีดแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย ได้รับอนุญาตจาก อย. ไทยให้สามารถใช้ภายในคลินิกหรือสถานพยาบาลได้ เช่น Hyaluronic Acid (HA filler)
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent filler)
เป็นสารเติมเต็มที่สามารถสลายได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถสลายได้ทั้งหมด และไม่มีตัวยาสลายในปัจจุบัน หากเป็นตัวยาที่ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ แต่ก็มีบางชนิดที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานได้ เช่น สารเติมเต็มชนิด Biostimulator อย่าง Calcium Hydroxyapatite, PLLA เป็นต้น
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler)
เป็นสารเติมเต็มที่ไม่สามารถสลายได้ด้วยตัวเอง และไม่มีตัวยาสลาย เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้ หากต้องการนำออกจากร่างกาย ต้องใช้วิธีการเฉพาะเท่านั้น เช่น การขูดฟิลเลอร์, การเจาะดูดฟิลเลอร์ หรือการผ่าตัด โดยตัวสารเติมเต็มประเภทนี้เป็นจำพวก พาราฟิน ซิลิโคนเหลว ที่ไม่ผ่าน อย. ไทยในการใช้ฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) อันตรายไหม?
ความกังวลหลักของผู้ที่สนใจทำโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์ คือ ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ฉีดเข้าไปแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า ซึ่งฟิลเลอร์ก็คือ สารไฮยาลูรอน ที่เป็นสารที่ถูกคิดค้นมาให้ใกล้เคียงกับไฮยาลูรอนิก แอซิด ของร่างกายมนุษย์ เมื่อฉีดเข้าไปจะสามารถเข้ากับเนื้อเยื่อของร่างกายได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
โดยฟิลเลอร์ที่ฉีดต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) จากประเทศไทยและสากลเท่านั้น ร่วมกับการใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และได้ทำหัตถการกับแพทย์ที่มี มีความรู้และประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างดี จึงจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดหรืออันตรายระหว่างฉีดได้
ฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหน แล้วดูดีขึ้น เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาบริเวณใต้ตา เช่น ใต้ตาคล้ำ, ใต้ตาหย่อนคล้อย, ริ้วรอยใต้ตา เติมเต็มส่วนที่ยุบลงไปใต้ตา อาจมีเทคนิคฉีดยกเพื่อให้ใต้ตาดูกระชับขึ้น และฟื้นฟูผิวใต้ตาให้มีความกระจ่างใส
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การเติมเต็มร่องแก้มลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูก หรือผู้ที่มีเนื้อแก้มเยอะ เมื่อมีการขยับเขยื้อนใบหน้าหรือริมฝีปากขณะพูดคุย และชั้นไขมันหย่อนคล้อยลงมา เกิดเป็นร่องแก้มลึกที่เห็นได้ชัด เมื่อฉีดสารเติมเต็มเข้าไปแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่าปัญหาร่องแก้มลึกนั้นจะหายไป
ฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คาง คือ การเสริมคางด้วยการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อปรับรูปคางให้สมมาตรกับรูปหน้า หรือแก้ไขปัญหาคาง เช่น คางสั้น คางตัด คางถอย เป็นต้น มักนิยมปรับให้รูปคางมีความยาวมากขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูเป็น V-Shape มีมิติ
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปาก คือ การเติมเต็มริมฝีปากมีความอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น หรือปรับรูปทรงริมฝีปากในแบบที่ตัวเองต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่ได้รูปทรง ริมฝีปากบาง ริมฝีปากแห้ง ตลอดจนช่วยรักษาปัญหาริมฝีปากหมองคล้ำ แห้งกร้าน มีร่องปาก ให้ดูอมชมพู เรียบเนียน ดูสุขภาพดี
ฟิลเลอร์ขมับ
ฟิลเลอร์ขมับ ช่วยแก้ไขปัญหาผิวขมับตอบ ขมับยุบ ขมับบุ๋ม ให้กลับมาดูเต็มอิ่ม ดูมีน้ำมีนวลขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าก็จะดูกลับมาสมมาตร สมส่วนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์ สวยหวาน ดูละมุน
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แต่ละบริเวณ ใช้ปริมาณกี่ cc
ฟิลเลอร์ (Filler) ยี่ห้อไหนดี ที่ผ่าน อย. ในไทย แต่ละรุ่นอยู่ได้นานเท่าไร
ฟิลเลอร์ Juvederm
- Juvederm Volite อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Vobella อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
- Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18 – 24 เดือน
- Juvederm Ultra XC อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus XC อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane
- Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน
- Restylane Vital อยู่ได้นาน 8 เดือน
- Restylane classic อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
- Restylane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Refyne อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
- Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Defyne อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero
- Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Soft อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
- Belotero Revive อยู่ได้นาน 6 – 9 เดือน
ฟิลเลอร์ Eptq
- eptq S100 lidocaine อยู่ได้นาน 6 – 9 เดือน
- eptq S300 lidocaine อยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน
- eptq S500 lidocaine อยู่ได้นาน 12 – 15 เดือน
ฟิลเลอร์ Flore
- Flore Full Aqua-S อยู่ได้นาน 6 เดือน
- Flore Full S อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
- Flore Full N อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
- Flore Full MAX อยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน
- Flore Full MAX 1400 อยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Neuramis
- Neuramis Deep อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน
- Neuramis Deep Lidocaine อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน
- Neuramis Volume Lidocaine อยู่ได้นาน 12 – 24 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) กี่วันเข้าที่ บวมกี่วัน ต้องพักฟื้นกี่วัน
หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถแต่งหน้าใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจมีอาการบวมแดงในจุดที่ฉีด จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2 – 3 วัน และจะเข้าที่ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากฉีด ทั้งนี้ยังอยู่ได้ยาวนานถึง 8 – 24 เดือนหลังจากนั้น จะสลายไปเองตามธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ด้วย)
ชนิดเข็มที่ใช้ในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
- เข้าปรึกษากับแพทย์ ประเมิน วิเคราะห์ ปัญหาใบหน้าที่กังวล เพื่อวางแผนในการฉีดฟิลเลอร์
- เมื่อได้แผนการรักษา จึงเริ่มขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า และใช้ยาฆ่าเชื้อบริเวณที่ทำการรักษา
- แปะยาชาหรือประคบน้ำแข็งอย่างน้อย 30 นาที เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
- ก่อนรับการรักษา สามารถขอตรวจสอบยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์ที่จะใช้ได้ ว่ามีการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- แพทย์ทำการฉีดยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ (ขึ้นอยู่กับว่าตัวฟิลเลอร์มียาชาผสมอยู่แล้วหรือไม่)
- แพทย์ทำการลงมือทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาของคนไข้
- แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด และอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ระมัดระวังและให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์สวยงาม อยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
- ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด และวิตามิน เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่ส่งผลให้ผิวบวมช้ำง่าย
- ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการทำหัตถการเลเซอร์ต่าง ๆ
- ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ใน 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
- หากมีผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อ ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อน
- หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการ
ข้อควรปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือผิดรูป ไม่ตรงตามที่แพทย์วางแผนไว้
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และความร้อน รวมถึงการทำเลเซอร์ผิว เพราะมีผลต่อการคงอยู่ของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิดที่มีส่วนผสมจาก วิตามินอี, น้ำมันพริมโรส, กระเทียม, ใบกิงโกะ, โสม เพราะเสี่ยงต่อภาวะช้ำได้ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด หรืออาหารเสริมบางชนิด เนื่องจากจะทำให้เลือดหยุดไหลยาก อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อาจทำให้มีผลกระทบต่อฟิลเลอร์และบวมช้ำได้ง่าย เป็นระยะเวลา 3 – 5 วันหลังทำหัตถการ
- ดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อให้ฟิลเลอร์อิ่มฟู อยู่ได้นานมากขึ้น อย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไหนดี?
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ที่ไหนดี? เหตุผล 5 ข้อที่ควรมาทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic
Amarante clinic ภายใต้การดูแลของ คุณหมอต้น นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ที่มีประสบการณ์ในวงการความงามกว่า 17 ปี นำทีมเเพทย์ผู้มีประสบการณ์มาช่วยเสริมทัพสามารถแก้ไขปัญหาความงาม มุ่งเน้นความสวยในเเบบอัตลักษณ์ของผู้รับบริการ ด้วยแนวคิดความสวยที่เป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้น มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ทักษะเฉพาะของตัวเอง ที่สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด
เราใส่ใจทุกรายละเอียด มีความละเอียดพิถีพิถันใส่ใจในการฉีด พิจารณาเเละวิเคราะห์รูปหน้าอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน รวมไปถึงการแสดงสีหน้า การทำงานของกล้ามเนื้อต่างๆ บนใบหน้า เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีสูงสุดในทุกมิติ
เรามุ่งเน้น และให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ จริงใจต่อผู้รับบริการ ทั้งการบริการที่ได้มาตรฐาน การดูแลด้วยความใส่ใจ รวมถึงการรักษาที่วิเคราะห์เคส และวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน โดยไม่ยัดเยียดคอร์สหรือโปรแกรมใดๆ
เรามอบการบริการที่จริงใจ มีรูปรีวิวไม่บิดเบือนผลการรักษา เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการให้บริการ แจ้งราคาค่ารักษาก่อนรับบริการ อย่างตรงไปตรงมา จนได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการเป็นจำนวนมา
เราได้รับความไว้วางใจจากเหล่าดาราและเซเลบริตี้มากมาย ด้วยฝีมือ และผลงานเป็นที่ยอมรับระดับแนวหน้าของประเทศ และได้รับการบอกต่อในวงการบันเทิงถึงความสามารถของทีมแพทย์ จนกลายเป็นคลินิกผู้อยู่เบื้องหลังความงามของดารามากมาย ที่ฝากใบหน้าและรูปร่างให้ช่วยดูแล ทั้งคุณมดดำ คชาภา ร่วมกับดาราอีกหลากหลายท่านในวงการ
คลินิกเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรอง จาก อย. ประเทศไทยเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ (Filler)
นอกจากประเด็นข้อมูลทั่วไป อย่างเช่น ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยอะไร และฉีดส่วนไหนได้บ้างแล้ว ทาง Amarante Clinic ก็ยังได้รวบรวมคำถามที่มักจะได้รับอยู่บ่อยๆ มาให้ชมกัน โดยจะมีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปจะมีการแปะยาชาและประคบน้ำแข็งระหว่างฉีด ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีปัญหาเรื่องรู้สึกเจ็บ แต่หลังจากที่ฉีดแล้ว บางคนก็อาจมีอาการบวม แดง คัน มีรอยช้ำ หรือรู้สึกปวดตึงได้บ้าง ซึ่งก็จะเริ่มดีขึ้นภายใน 2-3 วัน และส่วนมากจะหายเป็นปกติไม่เกิน 2 สัปดาห์
เข็มฉีดฟิลเลอร์มีแบบใดบ้าง
ข็มฉีดฟิลเลอร์จะแบ่งได้หลักๆ เป็น 2 แบบ ได้แก่
- เข็มทู่ มีข้อดีคือทำให้เกิดรอยเปิดเข็มน้อย ช่วยลดโอกาสเกิดรอยเขียวช้ำ โดยจะเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความละเอียด แต่ก็มีข้อเสียคือแพทย์ต้องมีความชำนาญสูง และหากแพทย์ออกแรงเยอะเกินไปก็อาจทำให้เข็มแทงโดนเส้นเลือดได้
- เข็มแหลม มีข้อดีคือแทงง่ายกว่า ใช้สะดวกกว่า โดยจะเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความแม่นยำ แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เกิดรูเปิดเข็มหลายรอบ และจะทำให้เสี่ยงเกิดรอยเขียวช้ำง่ายกว่า
ฟิลเลอร์สลายเองได้หมดไหม
ฟิลเลอร์จะสลายเองได้หมดถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด เทคนิคการฉีด ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีด สภาพร่างกายของแต่ละคน เป็นต้น
การฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร ทำในกรณีไหน
การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือการฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase เข้าไปเพื่อให้ฟิลเลอร์สลาย โดยจะทำเมื่อต้องการแก้ไขผลลัพธ์ เช่น กรณีที่ใช้ฟิลเลอร์มากไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ฉีดผิดตำแหน่ง ต้องการแก้ให้เหมือนก่อนฉีด เป็นต้น ทั้งนี้ การฉีดสลายฟิลเลอร์จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับฟิลเลอร์ปลอมได้
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์ รวมทุกข้อควรรู้ [พร้อมรีวิว]
การขูดฟิลเลอร์คืออะไร ทำในกรณีไหน
การขูดฟิลเลอร์ คือการขูดเพื่อนำฟิลเลอร์ปลอมออก สาเหตุที่ต้องขูดก็เพราะว่าฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้ ไม่ว่าจะด้วยการสลายเองหรือฉีดสลาย โดยผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมก็มักจะมาด้วยอาการผิดปกติต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน อักเสบ ติดเชื้อ หรือในกรณีร้ายแรงก็อาจเกิดเนื้อตายหรือเส้นเลือดอุดตัน
ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มผิวที่ฉีดเพื่อหวังผลในการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ส่วนโบท็อกซ์ คือโปรตีนจากแบคทีเรียที่ใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยผ่านการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อเทียบกันแล้ว โบท็อกซ์จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อได้ดีกว่า เช่น ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ส่วนฟิลเลอร์จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากสาเหตุอื่นได้ดีกว่า เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่นทั่วไป และริ้วรอยร่องลึก
ฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมันต่างกันอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อหวังผลในการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ส่วนการฉีดไขมัน คือการฉีดเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ที่ได้มาจากไขมันบริเวณอื่น เพื่อช่วยเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการ จุดต่างที่สำคัญระหว่าง 2 หัตถการนี้ก็คือ การฉีดฟิลเลอร์จะทำได้สะดวกกว่าและเห็นผลได้เร็วกว่า แต่ผลที่ได้จะคงอยู่แค่ชั่วคราว ส่วนการฉีดไขมันจะทำได้ยากกว่าและอาจต้องทำหลายรอบกว่าจะอยู่ตัว แต่เมื่อทำติดแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะคงอยู่ถาวร
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดไขมัน กับ ฉีดฟิลเลอร์ ความต่างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ






















































