ความแตกต่างระหว่างถุงใต้ตา และ ดอลลี่อาย

ถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา คือ ถุงไขมันใต้ตาขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นถุงนูนบวมปูดออกมาอยู่บริเวณใต้ตา ส่งผลให้ใบหน้าดูเกินวัย อ่อนล้าและโทรมกว่าความเป็นจริง
ดอลลี่อาย
ดอลลี่อาย คือ กล้ามเนื้อบริเวณขอบตาล่าง ที่จะสามารถเห็นได้เด่นชัดเมื่อแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม หรือ หัวเราะ เป็นกล้ามเนื้อที่ทุกคนมีอยู่แล้ว การมีดอลลี่อายจะช่วยเสริมให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์ ดูน่ารักมากขึ้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา ต่างกันอย่างไร

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการใช้สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA Filler) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ฉีดเข้าไปในบริเวณใต้ตา เพื่อช่วยเติมเต็มและลดเลือนถุงใต้ตาให้มีความเรียบเนียน เสริมให้ใบหน้ามีชีวิตชีวาและสดใสมากขึ้น เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดถุงใต้ตาได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดหรือมีบาดแผล และเห็นผลลัพธ์ได้ทันที
ส่วนการศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา เป็นการผ่าตัดเพื่อนำไขมันใต้เปลือกตาล่างออก ตัดหนังส่วนเกินออกให้มีความเหมาะสม และเย็บตกแต่งให้สวยงาม ก่อนทำต้องมาการเตรียมตัวอย่างดี และหลังทำต้องมีการพักฟื้น ดูแลตัวเอง ทำตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงอันตราย
ปัญหาใต้ตาแบบไหน ควรแก้ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา ?

โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปัญหาริ้วรอยใต้ตาลึกและสังเกตเงาดำได้ง่าย
- ปัญหาเบ้าใต้ตาลึก (จากการสูญเสียปริมาตรผิว)
- ปัญหาถุงใต้ตาจากการหย่อนคล้อยของไขมัน
ศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา
- ปัญหาถุงใต้ตาขนาดใหญ่และนูนชัดเจน
- ปัญหาถุงใต้ตาที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ให้ดูเกินวัยและเหนื่อยล้า
- ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยรุนแรง
- ปัญหาถุงใต้ตาที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยฟิลเลอร์หรือการทำเลเซอร์
ข้อดี - ข้อสังเกต ของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดี
- สามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว
- สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากการกระตุ้นคอลลาเจน
- ยกบริเวณหน้าแก้มให้กระชับขึ้น
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 6 – 18 เดือน
ข้อสังเกต
- อาจมีความช้ำหรือบวม เจ็บเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
- หากทำกับแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เป็นก้อน, ฟิลเลอร์เคลื่อน
- ไม่ตอบโจทย์กับทุกปัญหาใต้ตา
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร หากฟิลเลอร์สลายหมดต้องกลับมาทำซ้ำ
- เกิดค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง หากต้องการคงผลลัพธ์เดิม
ข้อดี - ข้อสังเกต ของศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา
ข้อดี
- เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะเป็นการนำไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณขอบตาล่างโดยตรง
- ได้ผลลัพธ์ถาวร ถุงใต้ตาหายไปอย่างยาวนาน 3-10 ปี
- สามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้ ยกกระชับตกแต่งหนังบริเวณใต้ตาได้
- สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่มีความใหญ่และรุนแรงได้
- ปรับให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์ลง
ข้อสังเกต
- ต้องมีการพักฟื้น เพื่อลดผลข้างเคียงหลังทำ
- ต้องรอผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
- มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ ตาปลิ้น
- เมื่อทำแล้วไม่สามารถแก้ไขได้
รักษาปัญหาถุงใต้ตาด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตาที่ Amarante Clinic

Amarante Clinic มอบบริการด้านความงามแบบครบวงจร ทั้งการฉีดฟิลเลอร์และศัลยกรรมโดยทีมแพทย์มากฝีมือและประสบการณ์ ด้วยเทคนิค “A³ Lifting” ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมแพทย์ของคลินิกเอง เราใส่ใจตั้งแต่การวิเคราะห์ใบหน้าเฉพาะบุคคล ไปจนถึงการดูแลหลังการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่สวยกลมกลืนและคงอยู่ได้ยาวนาน
วิธีดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เช่น จับ, เกา หรือกด เพราะอาจทําให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวผิดรูปได้
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น การทําซาวน่า การอาบน้ำอุ่น หรือการนั่งหน้าเตา อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดการทําหัตถการอื่นๆ เช่น โบท็อกซ์ เลเซอร์ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการออกกําลังกายหนัก หรือ กิจกรรมที่ทําให้เลือดสูบฉีด
- ดื่มนํ้าเปล่ามาก ๆ เพื่อให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีความอิ่มฟู อุ้มนํ้ามากขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา
- ควรนอนยกศรีษะสูง จะช่วยลดอาการบวมและทำให้อาการบวมยุบเร็วขึ้น
- หลังผ่าตัด ให้ประคบด้วยความเย็นบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา เพื่อลดอาการบวมและช่วยห้ามเลือด
- หลังผ่าตัด 3 วัน สามารถล้างทำความสะอาดหน้าได้ตามปกติ โดยแนะนำให้ใช้น้ำอุ่นและล้างอย่างเบามือ
- ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ควรสวมแว่นตาแทนการใส่คอนแทคเลนส์ เพราะการดึงเปลือกตาเพื่อใส่คอนแทคเลนส์อาจทำให้แผลผ่าตัดแยกได้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง เช่น ยาแก้อักเสบ, ยาลดบวม
- พบแพทย์เพื่อตัดไหม และติดตามผลการรักษาหลังผ่าตัดไปแล้วประมาณ 7 วัน
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการรับประทานของหมักดอง
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้สายตามาก เช่น ดูทีวี, อ่านหนังสือ เพราะอาจทำให้แผลอักเสบและหายช้า
สรุป
ทั้งการ ศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตาหรือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองวิธีต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญ ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาและคำนวณเหมาะสมว่าควรใช้การรักษาด้วยวิธีการใด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเห็นผลลัพธ์ได้จริง
ผู้ที่สนใจรักษาถุงใต้ตาที่ Amarante Clinic
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเลือกทำ ศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตาหรือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่มีมาตรฐานได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับที่ Amarante Clinic คลินิกเสริมความงามพร้อมด้วยบริการครบวงจรทั้งฟิลเลอร์และศัลยกรรม ยืนยันด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงจำนวนมากที่ต่างไว้วางใจให้เราดูแลจนได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและตรงตามความต้องการ ถ้าหากสนใจต้องการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือนัดคิวปรึกษาแพทย์ ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย