โบท็อกปรับรูปหน้า เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมความงามยอดนิยมที่ช่วยให้ใบหน้าเรียวเล็กลง พร้อมลดเลือนริ้วรอยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งหลาย ๆ คนก็มีคำถามที่สงสัยอยู่ว่า โบท็อกอยู่ได้นานไหม เมื่อไรถึงควรกลับไปฉีดซ้ำ และมีวิธีในการดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนาน ในบทความนี้ จะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงการทำงานของโบท็อก และวางแผนการดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม
สาระสำคัญของโบท็อกอยู่ได้นานไหม
- โปรแกรมโบท็อก เป็นโปรแกรมความงามที่ช่วยปรับรูปหน้าและลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างเห็นผลโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด รวมทั้งยังสามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาที่หลากหลายได้อีกด้วย
- โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของโปรแกรมโบท็อกจะคงอยู่ประมาณ 3 – 6 เดือน (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณยูนิตที่ใช้) โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรฉีดซ้ำก็คือ ริ้วรอยกลับมา รูปหน้าไม่กระชับ และกล้ามเนื้อเริ่มขยับได้ตามปกติ ฯ
- การดูแลตัวเองหลังจากฉีดโบท็อกนั้นสำคัญมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ของโบท็อกอยู่ได้ยาวนาน ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบหรือก้มต่ำหลังฉีด งดความร้อน แอลกอฮอล์ บุหรี่ และการกดนวดบริเวณที่ฉีด และอย่าลืมขยับกล้ามเนื้อเบา ๆ หลังจากฉีดด้วย
- ควรเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดี และไม่เป็นอันตราย
โบท็อกปรับรูปหน้า (Face lift Botox) ฉีดตรงไหนได้บ้าง
โปรแกรมโบท็อกปรับรูปหน้า (Face lift Botox) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับใครที่อยากมีใบหน้าที่เรียวสวย ยกกระชับ ไร้ริ้วรอยโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เรามาดูกันว่า โบท็อกสามารถฉีดตรงไหนได้บ้าง และแต่ละส่วนช่วยเรื่องอะไร
- โบท็อกกราม (Masseter) : ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวมากขึ้น
- โบท็อกกหน้าผาก (Forehead) : ช่วยลดริ้วรอยจากการขมวดคิ้ว หรือการยกคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- โบท็อกหว่างคิ้ว (Glabella) : ช่วยลดรอยขมวดคิ้วที่ทำให้ใบหน้าดูดุ
- โบท็อกหางตา (Crow’s Feet) : ช่วยลดริ้วรอยหางตาที่เกิดจากการแสดงสีหน้าต่าง ๆ
- โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า เหนียง คอ (Face Lift) : ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยในบริเวณกรอบหน้า เหนียง และลำคอให้ดูเต่งตึงมากขึ้น
- โบท็อกคาง (Chin) : ช่วยลดรอยย่นที่คาง และปรับรูปคางให้ดูสมส่วน
และสิ่งสำคัญที่ควรรู้เอาไว้ก็คือ ปริมาณของยูนิตโบท็อกที่ใช้ในแต่ละบริเวณ ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะแต่ละจุดมีจำนวนยูนิตที่เหมาะสมแตกต่างกัน การปรึกษากับแพทย์จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์การฉีดโบท็อกที่สวยงามตรงใจ และเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
โบท็อก (Botox) อยู่ได้นานแค่ไหน

หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยก็คือ โบท็อกอยู่ได้นานไหม? โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาที่ผลลัพธ์ของโบท็อก จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 6 เดือน ซึ่งระยะเวลาจะมาหรือน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น
- ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อก : เช่น โบท็อกหน้าผากและหางตา จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 4 เดือน ส่วนโบท็อกกราม จะเห็นผลอยู่ได้ยาวนานกว่าที่ประมาณ 5 – 6 เดือน
- ปริมาณของยูนิตที่ใช้ : การใช้ปริมาณของโบท็อกที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนานมากขึ้น
- การดูแลตัวเองหลังฉีด : เป็นปัจจัยที่ส่งผลเป็นอย่างมากต่อระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของโบท็อก
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว โปรแกรมโบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลภายใน 3 – 7 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ชัดเจนภายใน 14 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์
โบท็อก (Botox) ต้องฉีดใหม่ตอนไหน
ฉีดโบท็อกอยู่ไหนนานไหม? โดยทั่วไปแล้วโบท็อกจะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน (ระยะเวลาจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย) และเมื่อฤทธิ์ของโบท็อกเริ่มหมดลง กล้ามเนื้อจะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ ซึ่งจะทำให้ปัญหาริ้วรอย หรือรูปหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนฉีด โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรฉีดโบท็อกใหม่อีกครั้ง มีดังนี้
- ริ้วรอยเริ่มกลับมาให้เห็นชัดเจน
- รูปหน้ากลับมาดูกว้าง หรือเริ่มไม่กระชับ
- กล้ามเนื้อเริ่มเคลื่อนไหวได้เหมือนก่อนฉีด
ดังนั้น แพทย์จึงมักแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ้ำทุก 4 – 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและต่อเนื่องเอาไว้ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่จนเกินไป (เว้นช่วงอย่างน้อย 3 – 4 เดือน) เพื่อป้องกันอาการดื้อโบท็อก และไม่ควรเว้นช่วงนานเกินจนไป (ไม่เกิน 5 – 6 เดือน) เช่นกัน เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานเต็มที่ และจำเป็นต้องใช้ปริมาณโบท็อกที่มากขึ้นในครั้งถัดไป
ดูแลตัวเองอย่างไร ให้โบท็อก (Botox) อยู่ได้นาน

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกนั้นสำคัญมาก เพราะมีผลโดยตรงต่อระยะเวลา และผลลัพธ์ที่ได้ หากเราดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้โบท็อกทำงานได้ดี และคงความสวยเอาไว้ได้อย่างยาวนาน โดยคำแนะนำในการดูแลตัวเองให้โบท็อกอยู่ได้นาน มีดังนี้
- ขยับกล้ามเนื้อเบา ๆ 1 – 2 ครั้ง หลังจากฉีดโบท็อก เพื่อช่วยให้โบท็อกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ผิวได้ดีขึ้น
- ห้ามนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มศีรษะต่ำกว่าอก อย่างน้อย 3 – 4 ชม.หลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกเคลื่อนไปตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ และกิจกรรมออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออก หรือหน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เพราะความร้อนจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว และโบท็อกสลายตัวเร็วขึ้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชม. เพราะอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบ บวมช้า หรือทำให้ผลโบท็อกอยู่ได้สั้นลง
- งดนวดหน้า หรือกดแรง ๆ ในบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกเคลื่อนที่
- ทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี เพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี และเร็วมากขึ้น
- พบแพทย์ตามนัดหมายเสมอ เพื่อให้แพทย์ติดตามผล และประเมินว่าโบท็อกอยู่ได้นานไหม ควรฉีดซ้ำเมื่อไร
- ฉีดโบท็อกซ้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ถี่จนเกินไป เพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีเอาไว้ แต่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 – 4 เดือน เพื่อป้องกันอาการดื้อโบท็อก
และอย่าลืมสังเกตตัวเองด้วยว่า มีอาการเลือดไหลไม่หยุด ปวดบวมมาก หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อรีบพบแพทย์ และค้นหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ฉีดโบท็อก (Botox) โดยทีมแพทย์คุณภาพ ที่ Amarante Clinic

เพราะ Amarante Clinic เข้าใจถึงทุกความกังวลที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของคุณ และพร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่จะคืนความอ่อนเยาว์ และเผยผิวหน้าที่เรียบเนียนสดใสของคุณ ด้วยโปรแกรมฉีดโบท็อกโดยทีมแพทย์คุณภาพที่มีประสบการณ์ยาวนาน เลือกใช้โบท็อกแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสามารถตรวจสอบได้ พร้อมการดูแลที่เอาใส่ใจในทุกขั้นตอน ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อช่วยยืดอายุผลลัพธ์ของโบท็อกให้คงอยู่กับคุณได้นานยิ่งขึ้น
เพียงเข้ารับบริการกับเรา คุณจะได้สัมผัสกับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในการลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว หรือรอยตีนกา ให้จางลงแบบเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวามากขึ้นในแบบที่เป็นตัวคุณ เข้ามาปรึกษากับเรา แล้วสวยไปด้วยกันที่ Amarante Clinic!
ข้อดีของการฉีดโบท็อก (Botox)
โปรแกรมโบท็อก (Botox) ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องของการลดริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่ทำให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมความงามยอดนิยม มาลองดูกันว่าข้อดีของโบท็อกมีอะไรบ้าง
- ช่วยลดริ้วรอย และร่องลึกบนใบหน้า ให้จางลงหรือหายไป ทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และดูอ่อนเยาว์
- ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ใบหน้าดูเรียวเล็กลง มีมิติมากขึ้น
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรอบหน้า เหนียง และลำคอให้ใบหน้าดูเต่งตึง และได้รูปขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
- เห็นผลเร็วภายใน 3 – 7 วัน ไม่มีแผล ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- ช่วยรักษาอาการบางอย่างได้ เช่น ช่วยลดเหงื่อ และกลิ่นกายได้ หากฉีดในบริเวณรักแร้
การฉีดโบท็อก จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า และลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น รวมทั้งยังเห็นผลค่อนข้างเร็วอีกด้วย
โบท็อก (Botox) เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับ ผู้ที่มีริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา หรือรอยย่นเล็ก ๆ
- เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อ โบท็อกจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้เล็กลง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก
- เหมาะกับ ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก โดยโบท็อกสามารถฉีดที่รักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า เพื่อลดเหงื่อที่ออกมากเกินไป และยังช่วยลดกลิ่นตัวได้อีกด้วย
- เหมาะกับ ผู้ที่มีโหนกแก้มใหญ่ โดยโบท็อกจะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ขนาดโหนกแก้มดูเล็กลง
- เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึง และปรับรูปหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น
- เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขนให้เล็กลง และลดความมันบนใบหน้า
ข้อควรระวังในการฉีดโบท็อก (Botox)
การฉีดโบท็อกมีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และไม่เป็นอันตราย ดังนี้
- เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความรู้เรื่องของกายวิภาคของใบหน้าเป็นอย่างดีเท่านั้น เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
- ต้องใช้โบท็อกของแท้เท่านั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบท็อกที่ใช้เป็นของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย มีเลขทะเบียน อย. ชัดเจน และสามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้ผลิตได้ เพราะถ้าหากเผลอไปฉีดโบท็อกปลอม อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วย
- อย่าลืมแจ้งข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังรับประทานอยู่ให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อที่แพทย์จะสามารถวิเคราะห์และออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
- ไม่ควรฉีดโบท็อกในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ หน้าแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาได้ โดยปกติแล้ว แพทย์ที่ดีจะประเมินปริมาณที่เหมาะสมให้กับเราก่อนเสมอ
ผู้ที่สนใจฉีดโบท็อก (Botox) ที่ Amarante Clinic
ที่ Amarante Clinic เรามีโปรแกรมโบท็อกปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ตอบโจทย์ทุกการแก้ปัญหา และความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดขนาดกรามให้เรียวเล็กคมชัด ยกกระชับกรอบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ หรือแม้แต่ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หางตา และหว่างคิ้ว ให้ผิวดูเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ ทุกขั้นตอนดูแลโดยทีมแพทย์มากฝีมือที่มีประสบการณ์ยาวนาน เลือกใช้โบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐาน ดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอนตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงการนัดติดตามผล เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า จะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และไม่เป็นอันตราย หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลหรือดูรีวิวเพิ่มเติมได้ภายในเว็บไซต์ หรือปรึกษาปัญหาเบื้องต้นได้ตามช่องทางด้านล่างนี้