Exosome นวัตกรรมฟื้นฟูผิว ด้วยสารชีวโมเลกุล กว่า 1,000 ชนิด

Exosome คือ? ช่วยเรื่องอะไร? ราคาเท่าไหร่? 

Exosome กำลังได้รับความนิยมในการนำมาใช้ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว และสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยมีงานวิจัยทางการแพทย์รับรองถึงประสิทธิภาพ ที่สามารถกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง

Exosome คืออะไร

คือ นวัตกรรมที่จะช่วยฟื้นฟูผิว ด้วยสารชีวโมเลกุล กว่า 1,000 ชนิด ที่สำคัญกับผิวของมนุษย์ มีอนุภาคขนาดเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1,000 เท่า ประมาณ 30-100 นาโนเมตร โดยจะถูกปล่อยออกมาจากสเต็มเซลล์ (Stem Cell) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ได้ดี ทำให้เข้าไปซ่อมแซมโครงสร้างผิวที่สึกหรอได้อย่างตรงจุด ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง และยังช่วยชะลอการเสื่อมของผิว

และมีหลายยี่ห้อ โดย Exosome ASCE+ สกัดมาจากสเต็มเซลล์ของดอกกุหลาบ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดฝ้ากระ ลดเม็ดสี(เมลานิน) และลดการอักเสบได้ดี

Exosome ทำงานอย่างไร?

Exosome ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลต่างๆ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารกับเซลล์อื่นๆ สารชีวโมเลกุลที่ถูกส่งผ่าน จะช่วยกระตุ้นกระบวนการทำงานในเซลล์ผิวหนัง เมื่อเซลล์ผิวหน้าของเราเสียหายหรือถูกทำลาย  จะช่วยในการฟื้นฟู กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหน้าได้ดีกว่าเดิม 

นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเสื่อมสภาพของผิวหน้า และส่งเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับและลดริ้วรอยได้อีกด้วย

Exosome ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหน้า ทำให้ผิวสุขภาพดี ยืดหยุ่นมากขึ้น
• ยับยั้งการเกิดเม็ดสี ฝ้ากระ จุดด่างดำ
• ช่วยให้ผิวกระจ่างใส อิ่มฟู ฉ่ำเด้ง
• ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายและเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่
• เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าดูนุ่มนวล อ่อนเยาว์ลง
• ช่วยลดเส้นริ้วรอย และซ่อมแซม ลดความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด 
• ช่วยลดรอยสิว หลุมสิวรอยแผลเป็น ปรับให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• กระชับรูขุมขน 
• ฟื้นฟูให้ผิวหน้าแข็งแรง  ลดอาการอักเสบของผิว
  

ฉีดจุดไหนได้บ้าง?

สามารถทำได้ทั่วใบหน้า หรือทำเฉพาะจุดที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น

• บริเวณใต้ตา ลดใต้ตาคล้ำ ให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส
• หน้าผาก ลดริ้วรอยหน้าผาก
• แก้ม ลดการแพ้ จุดด่างดำ และการอักเสบของผิว
• ร่องแก้ม เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
• ลำคอ ลดริ้วรอยบริเวณลำคอ

กรอบหน้า ช่วยให้กรอบหน้ากระชับขึ้น

เหมาะกับใคร?

เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก และผู้ที่มีปัญหาผิว ดังนี้ 

• ผู้ที่มีริ้วรอย รอยสิว หรือรอยแผล เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม หน้าผาก
• มีปัญหาฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง บนใบหน้า
• มีหลุมสิวตื้น ๆ รอยสิว
• ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ ดูโทรมไม่สดใส
• มีผิวหน้าแห้ง และขาดความชุ่มชื่น
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
• ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูสดใสและมีสุขภาพผิวที่ดี
  

ไม่เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
• ผู้ป่วยมะเร็ง
• ผู้ที่มีประวัติแพ้สารสกัดจากเซลล์และสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิต
• ผู้ที่รับประทานยากดภูมิ
• ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้
• ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune)
• ผู้ที่มีปัญหาหรือโรคที่มีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้รุนแรงหรือโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  

ก่อนทำเตรียมตัวอย่างไร ?

• ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมถึงวิธีการสังเกตตัวยาแท้
• งดแอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. John’s Wort, Ginkgo Biloba, Primrose Oil, Garlic, Ginseng, Vitamin E
• งดคอร์สเลเซอร์ ดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะทำ
• งดยาผลัดเซลล์ผิวละนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนทำ
• หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
  

ขั้นตอนการทำ

• ทำความสะอาดผิวหน้า และแปะยาชา เพื่อลดความเจ็บขณะทำ
• รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30-45 นาที แพทย์ฉีดเข้าสู่ผิว
• ใช้เวลาในการทำประมาณ 15-30 นาที
• หลังทำอาจมีตุ่มนูน ๆ บริเวณที่ทำ เมื่อตัวยาซึมเข้าผิวจะยุบลงได้เอง ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

การดูแลหลังทำ

• หลังทำอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำ ซึ่งเป็นอาการปกติ 
• หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้นๆ อาการต่างๆ จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
• บางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ ห้ามนวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ทำ
• งดการสครับผิว ขัดผิว ลอกผิว หรือเลเซอร์ผิว
• ดื่มน้ำเปล่า 1.5-2 ลิตร/วัน (8-10 แก้ว)
• งดแอลกอฮอล์ ประมาณ 7-14 วัน
• งดการทำทรีตเมนต์หรือกลุ่มเลเซอร์ที่ให้พลังงานความร้อนกับผิว ประมาณ 7-14 วัน
• งดการเข้าซาวน่า หรือกิจกรรมที่มีความร้อนสูงเกินไป
• ทำ 1 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 เดือน
• ทำ 2-3 ครั้ง อยู่ได้นาน 3-6 เดือน

ทำ 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี

งดออกกำลังกายหนักๆ

ต้องทำบ่อยแค่ไหน? กี่ครั้ง?

แนะนำควรทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง โดย 3 ครั้งแรก ทำทุก 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นเว้นช่วง 1 เดือน จึงทำครั้งที่ 4 และ 5

อยู่ได้นานแค่ไหน? กี่วันเห็นผล?

หลังทำ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ใน 3 วัน หากทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิวเดิมของคนไข้

ทำ Exosome เจ็บไหม?

ก่อนทำ Exosome จะมีการแปะยาชา ทำให้ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บ ตัวยาไม่แสบผิว และใช้เวลาในการทำไม่นานด้วยค่ะ

ใช้เวลานานไหม?

การทำมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล

อย่างไร ไม่เสี่ยงโดนหลอก!

• ต้องทำด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และรู้เทคนิคการทำ ทำในตำแหน่งที่ถูกต้อง และสามารถคำนวณปริมาณตัวยาที่ใช้ได้
• ใช้ตัวยาแท้ โดย 1 กล่องมี 2 ขวด คือ Lypophilized Powder (ขวดสีฟ้า) รูปแบบผง และ Diluent (ขวดสีดำ) รูปแบบน้ำ หมอจะผสมตัวยาทั้ง 2 ขวดเข้าด้วยกัน จะได้ปริมาณ 5 CC ต่อการทำ 1 ครั้ง โดยหมอจะต้องแกะกล่องให้ดูต่อหน้า และให้กล่องกลับบ้านเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจ
• ไม่ควรซื้อ ที่ขายทางออนไลน์มาใช้เองเด็ดขาด 
• ไม่ควรทำกับคนที่ไม่ใช่แพทย์เพราะอาจเกิดความผิดพลาด และเสี่ยงอันตรายได้
• เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จดทะเบียนถูกต้อง
  

Exosome ราคาเท่าไหร่?

ราคาโปรโมชั่นพิเศษ 19,000.-/ขวด จากปกติ 25,000 บาท

บทความที่เกี่ยวข้อง

• อ่านบทความเพิ่มเติม :   รีจูรัน (Rejuran) คืออะไร? ช่วยให้ฉ่ำวาวจริงไหม? อันตรายหรือไม่? ทำไมถึงฮิต?
• อ่านบทความเพิ่มเติม :  Sculptra ฉีดผิวฉ่ำ ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก