ปกภาพบทความ ฟิลเลอร์ปลอม อันตรายที่ต้องระวัง! กับวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้

“ ฟิลเลอร์ปลอม ” ภัยเงียบที่แฝงมากับกระแสนิยมการเสริมความงามในปัจจุบัน พบเห็นอยู่ทั่วตามสื่อโซเชียล และเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งในรูปของโฆษณาชวนเชื่อ การให้ข้อมูลบิดเบือน ไปถึงการปลอมแปลงมาในรูปลักษณ์ที่คล้ายกับฟิลเลอร์แท้

ทำให้ผู้บริโภคไม่น้อยหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ โดยคิดว่าตัวเองกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ แต่แท้จริงกลับเป็น ฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. และก่อให้เกิดอันตรายตามมาไม่รู้ตัว

ผู้บริโภคจำเป็นที่ต้องศึกษาหาข้อมูล ทั้งในเรื่องความต่างของฟิลเลอร์แท้กับฟิลเลอร์ปลอม วิธีสังเกตและตรวจสอบ สถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองเบื้องต้น ที่ช่วยให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของฟิลเลอร์เถื่อนและได้รับความเสี่ยงโดยใช่เหตุนั่นเอง

ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร

ภาพ infographic ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร

ฟิลเลอร์ปลอม (Fake Filler) คือ สารเติมเต็มที่ไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายได้ ทั่วไปเป็นสารที่ไม่สามารถละลายหรือถูกดูดซึมได้เองตามธรรมชาติ อย่าง ซิลิโคนเหลว (liquid silicone) หรือพาราฟิน (paraffin)

เมื่อฉีด ฟิลเลอร์ปลอม เข้าไป สารเหล่านี้จะตกค้างอยู่ในชั้นผิวหนัง ไม่ย่อยสลายหายไป หากฉีดเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาระยะยาว

ภาพ infographic ยกตัวอย่างผลข้างเคียงการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

คำว่า “ ฟิลเลอร์ปลอม ” นั้นรวมถึง ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ไม่สะอาด หรือมีส่วนผสมไม่บริสุทธิ์ เพราะแม้จะใช้สาร HA ที่เป็นส่วนประกอบเดียวกันกับฟิลเลอร์แท้ แต่ถ้าผลิตในที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน กระบวนการผลิตไม่สะอาด เครื่องมือและสภาพแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะ หรือมีการปนเปื้อนจากสารอื่น ๆ การใช้ฟิลเลอร์เหล่านี้ก็เสี่ยงต่ออันตรายได้เช่นกัน เป็นฟิลเลอร์ปลอมรูปแบบหนึ่ง

ความต่างระหว่างฟิลเลอร์ปลอม กับฟิลเลอร์หิ้ว

ฟิลเลอร์ เป็นเวชภัณฑ์ควบคุมที่ต้องขึ้นทะเบียนตามข้อกำหนดของ อย. ก่อนนำเข้ามาใช้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งการหิ้วหรือลักลอบนำเข้า ถือเป็นความผิดค่ะ

ถึงฟิลเลอร์หิ้วบางส่วนจะเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากต่างประเทศ แต่เพราะการขนส่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์กำหนด สภาวะการเก็บรักษาจึงไม่เหมาะสม อุณหภูมิไม่คงที่ ไม่มีระบบควบคุมความเย็น ส่งผลให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพ อาจเกิดอันตรายจากการใช้ ถือว่า ฟิลเลอร์หิ้ว เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่นกัน

อีกกรณี ฟิลเลอร์หิ้วเป็น “ฟิลเลอร์ปลอมที่สวมรอยในรูปแบบของฟิลเลอร์แท้” ระบุแหล่งที่มาไม่ได้ และไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ยิ่งหากซื้อหรือหลงเชื่อโฆษณาราคาถูกแล้วไปฉีดเอง หรือให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ฉีด จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกค่ะ

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกาย แม้ระยะแรกจะไม่ปรากฏอาการผิดปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มเหล่านี้จะค่อย ๆ ส่งผลกระทบและสะสมความเสียหายในเนื้อเยื่อ และกลายเป็นปัญหาสุขภาพในระยะยาว ทั้งภายในและภายนอกร่างกายค่ะ

เพราะฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่เป็นสารที่ไม่สามารถละลายหรือสลายตัวได้เอง อย่าง ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ที่เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังจะเกิดการสะสมและตกค้างอยู่บริเวณนั้น ไม่สามารถขจัดออกไปได้ พร้อม ๆ กับสารพิษหรือเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับฟิลเลอร์ปลอมด้วย ส่งผลให้เซลล์และเนื้อเยื่อถูกทำลาย เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นภายใน

หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ปริมาณสารแปลกปลอมที่สะสมใต้ผิวก็จะยิ่งมากขึ้น จนร่างกายทนไม่ไหว และที่สุดก็เริ่มแสดงอาการออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะอาการบวม แดง ร้อน ปวด คัน หรือมีผื่นปื้นนูนขึ้นมา เพราะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารแปลกปลอมขึ้นภายใต้ผิว มีการสร้างพังผืดมาล้อมกัก สัมผัสเป็นก้อนแข็งคลำได้ชัดเจน

และยิ่งฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นเวลาหลายปี สารแปลกปลอมที่ฉีดอาจเกิดการย้ายตำแหน่ง ไหลไปกองกันเป็นก้อนที่อวัยวะอื่น ส่งผลให้เกิดอาการบวมผิดรูป มีติ่งเนื้อหรือเป็นตุ่มนูนขึ้นมา

กรณีไม่ได้รับการรักษา สารพิษและเชื้อโรคที่ปนเปื้อน  รวมทั้งการอักเสบที่เรื้อรังมานาน จะทำให้เกิดการติดเชื้อฝังลึก โดยมีหนองไหลซึมออกมาจากตุ่มนูน เกิดเป็นฝีหนองขึ้นใต้ผิว ลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเน่าและตายได้

ฟิลเลอร์ปลอม ผลข้างเคียงและความเสี่ยง

ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ต่อไปนี้

  • มีอาการบวม แดง ร้อน ปวด หรือคันบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมช่วงแรก
  • ผิวหนังเกิดผื่นนูน ตุ่มแดง หรือรอยด่างดำจากสารสะสม
  • เกิดการอักเสบติดเชื้อใต้ผิวหนัง มีฝีหนองหรือแผลเรื้อรัง
  • เกิดพังผืดและความผิดปกติของโครงสร้างผิว เช่น เป็นตุ่ม เป็นสัน หรือมีก้อนแข็งอยู่ใต้ผิว
  • ผิวหนังเสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น หรือหย่อนคล้อยลง เพราะเนื้อเยื่อถูกทำลาย
  • ฟิลเลอร์เกิดการย้ายตำแหน่ง ทำให้ใบหน้าหรืออวัยวะบริเวณนั้นผิดรูป เช่น จมูกทรุด ริมฝีปากเบี้ยว
  • เส้นเลือดหรือเส้นประสาทถูกกดทับ เกิดอาการชาหรือปวดเรื้อรัง
  • เนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีดมีเลือดไปเลี้ยงไม่สะดวก เกิดเป็นเนื้อตายในที่สุด
  • กรณีติดเชื้อลุกลามรุนแรง อาจเกิดภาวะช็อกหรืออันตรายถึงชีวิต

นอกจากผลกระทบต่อร่างกาย ฟิลเลอร์ปลอมยังก่อให้เกิดผลเสียในด้านอื่นด้วย ไม่ว่าจะ

  • ทำให้เกิดความวิตกกังวลและซึมเศร้า เพราะความกดดันเรื่องรูปลักษณ์ที่เสียโฉม
  • ความยากลำบากในการรักษา เพราะการผ่าตัดหรือดูดฟิลเลอร์ปลอมออกทั้งหมดทำได้ยาก
  • เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งจากการแก้ไขและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
  • เกิดความเครียดและหมดความมั่นใจ หากมีรอยแผลเป็นหรือความพิการที่เกิดขึ้นถาวร

วิธีสังเกตลักษณะของฟิลเลอร์ปลอม เทียบกับฟิลเลอร์แท้

ภาพ infographic วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอม เทียบกับฟิลเลอร์แท้

ถึงฟิลเลอร์ปลอมจะปลอมแปลงให้มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์แท้ แต่หากพิจารณาอย่างละเอียด จะสังเกตความแตกต่างได้จากหลายจุด ดังนี้

ราคาถูกผิดปกติ

ถ้าพบฟิลเลอร์ที่ราคาถูกผิดปกติ ควรสงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม เพราะฟิลเลอร์แท้จะต้องผ่านการรับรองจาก อย. และนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ทำให้ต้นทุนสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานมาก เป็นไปได้ยากที่ราคาจะต่ำกว่ามาตรฐาน

บรรจุภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน

ฟิลเลอร์แท้จะบรรจุภัณฑ์ที่มาตรฐานและฉลากเป็นภาษาไทย ระบุข้อมูลสำคัญ อาทิ วันหมดอายุ เลขทะเบียน อย. ข้อมูลส่วนประกอบ และราคาไว้ชัดเจน ซึ่งภายในประกอบด้วยเข็ม หลอดยาที่ปิดสนิทด้วยจุกยาง มีครบจำนวนตามที่ระบุบนกล่อง และซองบรรจุมีข้อมูลเลขล็อตการผลิตที่ตรงกัน กรณีข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือมีลักษณะผิดแผกไป สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม

ไม่แสดงเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย

ฟิลเลอร์แท้ต้องแสดงเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยจาก อย. ไว้ชัดเจน เพราะทุกแบรนด์ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนนำเข้ามาใช้

วางขายตามอินเทอร์เน็ต หรือผู้แอบอ้างเป็นแพทย์

ฟิลเลอร์ คือเวชภัณฑ์ควบคุมที่ต้องสั่งซื้อผ่านบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น โดยต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และยื่นเอกสารมากมายในการสั่งซื้อ ไม่สามารถหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไปได้ โดยเฉพาะการขายบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเสี่ยงได้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีมาตรฐานอย่างมาก

รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์โดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือ “ หมอเถื่อน ” ก็เป็นสิ่งที่ต้องเลี่ยง เพราะเสี่ยงต่อการโดนฉีดด้วยฟิลเลอร์ปลอม และการใช้เทคนิคฉีดที่ไม่ถูกต้อง

วิธีตรวจและสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละแบรนด์

เพราะปัจจุบันมีผู้ให้บริการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์เทียมปะปนมาด้วย การสังเกตลักษณะกล่องและหลอดฟิลเลอร์เลยเป็นหนึ่งทักษะที่ผู้บริโภคควรรู้ เพื่อคัดกรองและป้องกันอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

ซึ่งแต่ละแบรนด์ฟิลเลอร์แท้ที่จำหน่ายในไทย ต่างก็มีวิธีเฉพาะในการตรวจสอบของแท้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ต่อไปนี้

Juvederm

Juvederm แบรนด์ยอดฮิตที่หลายคนไว้วางใจ ทำให้ฟิลเลอร์ปลอมพยายามปลอมแปลงสินค้าให้ดูคล้ายกับของแท้เสมอ วิธีตรวจฟิลเลอร์แท้ Juvederm คือ

  1. สังเกตเลขทะเบียน อย. พร้อมเอกสารกำกับภาษาไทยข้างกล่อง ที่ต้องระบุเลข 13 หลักอย่างชัดเจน ไม่มีแสดงว่าเป็นของปลอม
  2. สังเกตเลข LOT Number ที่ระบุบนสติ๊กเกอร์ กล่อง ซอง และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องเป็นเลขชุดเดียวกันทั้งหมด โดยเป็นตัวเลข 6 หลักตามด้วยตัวอักษร 2 ตัว เช่น 123456AB
  3. หากไม่มั่นใจสามารถโทรสอบถามเลข LOT Number ได้โดยตรงที่บริษัท Allergan ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
  4. ชุดอุปกรณ์ภายในกล่องต้องประกอบด้วย เข็ม 2 เล่ม หลอดฟิลเลอร์ที่ปิดสนิทด้วยจุกยาง 1 หลอด และเอกสารกำกับยาภาษาไทย 1 แผ่น ครบตามที่ระบุ

Restylane

Restylane อีกหนึ่งแบรนด์ฟิลเลอร์คุณภาพจากสวีเดนที่ได้รับความนิยม มีวิธีตรวจ Restylane ของแท้ คือ

  1. แสดงเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยบนกล่องอย่างถูกต้องชัดเจน
  2. มีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรม (Hologram) สีเงินปิดผนึกกล่อง เมื่อแกะออกจะมีคำว่า “VOID” ปรากฏให้เห็น
  3. มี QR Code แสดงข้างกล่อง เมื่อสแกนผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker จะปรากฏข้อความ “ ผลิตภัณฑ์นี้ถูกนำเข้าโดยถูกต้องตามกฎหมาย ” พร้อมแสดงรายละเอียดสินค้า หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะแสดงกล่องข้อความสีแดงเตือนขึ้นมา
  4. เลข LOT Number บนตัวหลอด กล่อง และสติ๊กเกอร์ ตรงกันทั้งหมด
  5. สามารถตรวจเลข LOT Number ได้โดยตรงกับ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

Neuramis

แบรนด์ฟิลเลอร์เกาหลี Neuramis อีกหนึ่งตัวเลือกยอดฮิตในตลาดบิวตี้ไทย วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ คือ

  1. มีเลขจดทะเบียน อย. 13 หลัก รวมถึงฉลากและเอกสารกำกับภาษาไทย ปรากฎบนกล่องอย่างสมบูรณ์
  2. มี QR Code ระบุไว้ข้างกล่อง เมื่อสแกนจะต้องเจอรายละเอียดของสินค้า เช่น รูปภาพ ชื่อรุ่น ปริมาณ และข้อมูลผู้ผลิต ตรงกับข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์
  3. รูปแบบกล่องและหลอดฟิลเลอร์ภายใน มีลักษณะรายละเอียดตามมาตรฐานของแบรนด์ เช่น โลโก้ สีสัน ตำแหน่งข้อมูล และอุปกรณ์ภายใน

Belotero

แบรนด์ฟิลเลอร์ Belotero อีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพจากประเทศเยอรมนี ที่ได้รับอนุมัติจาก อย. ในการวางจำหน่ายในประเทศไทย วิธีเช็คของแท้สังเกตจาก

  1. มีเลขทะเบียน อย.13 หลัก พร้อมเอกสารฉลากและคู่มือภาษาไทยกำกับมาให้ครบถ้วน
  2. เลข LOT Number ที่ระบุบนสติ๊กเกอร์ กล่อง และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องเหมือนกันทั้งหมด
  3. หากสงสัยสามารถตรวจสอบเลข LOT Number ได้โดยตรงกับบริษัท Merz Pharmaceuticals (Thailand) ตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
  4. บรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในเป็นไปตามมาตรฐาน ประกอบด้วย เข็ม 2 ชิ้น หลอดฟิลเลอร์ 1 หลอด และเอกสารกำกับยาภาษาไทย เท่านั้น

Perfectha Subskin

ฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้อย่าง Perfectha ก็นิยมในไทยมากเช่นกัน วิธีการสังเกตของแท้ คือ

  1. กล่องและหลอดฟิลเลอร์มีเลขทะเบียน อย.13 หลักชัดเจน และแสดงเอกสารกำกับภาษาไทยครบถ้วน
  2. เลข LOT Number ที่ระบุบนกล่อง สติ๊กเกอร์ ซองบรรจุ และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องตรงกันทั้งหมด
  3. สามารถตรวจสอบเลข LOT Number ที่สงสัยโดยตรงกับบริษัท อินเตอร์ฟาร์มา เซ็นเตอร์ จำกัด ได้ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักในประเทศไทย
  4. อุปกรณ์ภายในกล่องครบตามมาตรฐานของแบรนด์ โดย 1 กล่อง มีปริมาณฟิลเลอร์รวม 3 cc แบ่งบรรจุหลอดย่อยซองละ 1 cc จำนวน 3 ซอง

นอกจากตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว แนะนำให้เลือกใช้บริการจากสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีมาตรฐานเท่านั้น และควรขอให้แพทย์หรือพนักงานนำกล่องฟิลเลอร์ที่ใช้มาแกะให้ดูต่อหน้า พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง เพื่อติดตามตรวจสอบภายหลังได้ กรณีเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงผิดปกติ

การศึกษาวิธีสังเกตและตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ด้วยตัวเอง เป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันที่ผู้บริโภคไม่ควรมองข้าม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการได้รับฟิลเลอร์ปลอมโดยไม่ตั้งใจนั่นเองค่ะ

ข้อปฏิบัติก่อนและหลัง รับบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการ ดังนี้

แนะนำการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • หยุดทานยาประเภทแอสไพริน NSAIDs วิตามินอี หรือสมุนไพรบางอย่าง ก่อนฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงการช้ำ
  • เลี่ยงการแว็กซ์ ขัดหน้า ดึงหรือกำจัดขน บริเวณที่จะฉีด 3 วันล่วงหน้า
  • ไม่ทำเลเซอร์หรือนวดหน้า 3 วันก่อนฉีด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หรือทำกิจกรรมที่เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนฉีดฟิลเลอร์

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดผลข้างเคียง

ภาพ infographic วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  • เลี่ยงการจับ กด แตะ หรือเกาบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะจุดช้ำ
  • อยู่ห่างจากความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม. เช่น เว้นเข้าซาวน่า ตากแดด หรือออกกำลังกายหนัก
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
  • งดอาหารหมักดอง แสลง หรือดิบเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • งดแต่งหน้า 24 ชม. งดการนวด ทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ผิวหน้าอย่างน้อย 1 เดือน

สรุป

สรุปแล้ว ฟิลเลอร์ปลอม (Fake Filler) คืออันตรายที่มาพร้อมกับกระแสนิยมของการทำศัลยกรรมความงาม ที่หากฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงตามมาได้ภายหลัง

ฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่อยู่ในรูปของสารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ทำให้เกิดการสะสมอยู่ในชั้นผิวหนัง นำไปสู่ภาวะเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อ และอาการแพ้รุนแรง ปัจจุบันยังไม่มียาตัวไหนที่ฉีดสลายออกได้ ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเอาออกเท่านั้น

ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์แท้ เลยต้องให้ความสำคัญกับการหาข้อมูล เพราะฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่จะมาในรูปของโปรโมชั่นราคาถูก โฆษณาสรรพคุณเกินจริง หรือจากบริการของสถานที่ที่ไม่มีใบอนุญาต แต่ถึงจะผลิตให้คล้ายกัน ก็ยังสังเกตความผิดปกติได้จาก ราคาที่ถูกเกินจริง บรรจุภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ติดเครื่องหมาย อย. หรือมีการแอบอ้างขายตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ ค่ะ

กดแอดไลน์ปรึกษาคุณหมอ
ส่งข้อความปรึกษาคุณหมอ

ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ

🚩อย่าลืมแอดไลน์ http://bit.ly/3ZYmsMB เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ

😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

✅ Line คลิก > http://bit.ly/3ZYmsMB

✅ Inbox Facebook คลิก > http://bit.ly/3TrFOr0

✅ Instagram คลิก > http://bit.ly/3Z20siT

📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)

📞080-393-6669

📍สาขาบางนา : For You Park

📞080-556-5294

📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย

🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.