“ ฟิลเลอร์ปลอม ” ภัยเงียบที่แฝงมากับกระแสนิยมการเสริมความงามในปัจจุบัน พบเห็นอยู่ทั่วตามสื่อโซเชียล และเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งในรูปของโฆษณาชวนเชื่อ การให้ข้อมูลบิดเบือน ไปถึงการปลอมแปลงมาในรูปลักษณ์ที่คล้ายกับฟิลเลอร์แท้
ทำให้ผู้บริโภคไม่น้อยหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ โดยคิดว่าตัวเองกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ แต่แท้จริงกลับเป็น ฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. และก่อให้เกิดอันตรายตามมาไม่รู้ตัว
ผู้บริโภคจำเป็นที่ต้องศึกษาหาข้อมูล ทั้งในเรื่องความต่างของฟิลเลอร์แท้กับฟิลเลอร์ปลอม วิธีสังเกตและตรวจสอบ สถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองเบื้องต้น ที่ช่วยให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของฟิลเลอร์เถื่อนและได้รับความเสี่ยงโดยใช่เหตุนั่นเอง
ฟิลเลอร์ปลอมคืออะไร
ฟิลเลอร์ปลอม (Fake Filler) คือ สารเติมเต็มที่ไม่ผ่านการรับรองความปลอดภัย จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายได้ ทั่วไปเป็นสารที่ไม่สามารถละลายหรือถูกดูดซึมได้เองตามธรรมชาติ อย่าง ซิลิโคนเหลว (liquid silicone) หรือพาราฟิน (paraffin)
เมื่อฉีด ฟิลเลอร์ปลอม เข้าไป สารเหล่านี้จะตกค้างอยู่ในชั้นผิวหนัง ไม่ย่อยสลายหายไป หากฉีดเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาระยะยาว
คำว่า “ ฟิลเลอร์ปลอม ” นั้นรวมถึง ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ไม่สะอาด หรือมีส่วนผสมไม่บริสุทธิ์ เพราะแม้จะใช้สาร HA ที่เป็นส่วนประกอบเดียวกันกับฟิลเลอร์แท้ แต่ถ้าผลิตในที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน กระบวนการผลิตไม่สะอาด เครื่องมือและสภาพแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะ หรือมีการปนเปื้อนจากสารอื่น ๆ การใช้ฟิลเลอร์เหล่านี้ก็เสี่ยงต่ออันตรายได้เช่นกัน เป็นฟิลเลอร์ปลอมรูปแบบหนึ่ง
ความต่างระหว่างฟิลเลอร์ปลอม กับฟิลเลอร์หิ้ว
ฟิลเลอร์ เป็นเวชภัณฑ์ควบคุมที่ต้องขึ้นทะเบียนตามข้อกำหนดของ อย. ก่อนนำเข้ามาใช้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งการหิ้วหรือลักลอบนำเข้า ถือเป็นความผิดค่ะ
ถึงฟิลเลอร์หิ้วบางส่วนจะเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากต่างประเทศ แต่เพราะการขนส่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์กำหนด สภาวะการเก็บรักษาจึงไม่เหมาะสม อุณหภูมิไม่คงที่ ไม่มีระบบควบคุมความเย็น ส่งผลให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพ อาจเกิดอันตรายจากการใช้ ถือว่า ฟิลเลอร์หิ้ว เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่นกัน
อีกกรณี ฟิลเลอร์หิ้วเป็น “ฟิลเลอร์ปลอมที่สวมรอยในรูปแบบของฟิลเลอร์แท้” ระบุแหล่งที่มาไม่ได้ และไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ยิ่งหากซื้อหรือหลงเชื่อโฆษณาราคาถูกแล้วไปฉีดเอง หรือให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ฉีด จะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกค่ะ
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกาย แม้ระยะแรกจะไม่ปรากฏอาการผิดปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารเติมเต็มเหล่านี้จะค่อย ๆ ส่งผลกระทบและสะสมความเสียหายในเนื้อเยื่อ และกลายเป็นปัญหาสุขภาพในระยะยาว ทั้งภายในและภายนอกร่างกายค่ะ
เพราะฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่เป็นสารที่ไม่สามารถละลายหรือสลายตัวได้เอง อย่าง ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ที่เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังจะเกิดการสะสมและตกค้างอยู่บริเวณนั้น ไม่สามารถขจัดออกไปได้ พร้อม ๆ กับสารพิษหรือเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมากับฟิลเลอร์ปลอมด้วย ส่งผลให้เซลล์และเนื้อเยื่อถูกทำลาย เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นภายใน
หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ปริมาณสารแปลกปลอมที่สะสมใต้ผิวก็จะยิ่งมากขึ้น จนร่างกายทนไม่ไหว และที่สุดก็เริ่มแสดงอาการออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะอาการบวม แดง ร้อน ปวด คัน หรือมีผื่นปื้นนูนขึ้นมา เพราะเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารแปลกปลอมขึ้นภายใต้ผิว มีการสร้างพังผืดมาล้อมกัก สัมผัสเป็นก้อนแข็งคลำได้ชัดเจน
และยิ่งฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นเวลาหลายปี สารแปลกปลอมที่ฉีดอาจเกิดการย้ายตำแหน่ง ไหลไปกองกันเป็นก้อนที่อวัยวะอื่น ส่งผลให้เกิดอาการบวมผิดรูป มีติ่งเนื้อหรือเป็นตุ่มนูนขึ้นมา
กรณีไม่ได้รับการรักษา สารพิษและเชื้อโรคที่ปนเปื้อน รวมทั้งการอักเสบที่เรื้อรังมานาน จะทำให้เกิดการติดเชื้อฝังลึก โดยมีหนองไหลซึมออกมาจากตุ่มนูน เกิดเป็นฝีหนองขึ้นใต้ผิว ลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเน่าและตายได้
ฟิลเลอร์ปลอม ผลข้างเคียงและความเสี่ยง
ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ต่อไปนี้
- มีอาการบวม แดง ร้อน ปวด หรือคันบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมช่วงแรก
- ผิวหนังเกิดผื่นนูน ตุ่มแดง หรือรอยด่างดำจากสารสะสม
- เกิดการอักเสบติดเชื้อใต้ผิวหนัง มีฝีหนองหรือแผลเรื้อรัง
- เกิดพังผืดและความผิดปกติของโครงสร้างผิว เช่น เป็นตุ่ม เป็นสัน หรือมีก้อนแข็งอยู่ใต้ผิว
- ผิวหนังเสื่อมสภาพ เหี่ยวย่น หรือหย่อนคล้อยลง เพราะเนื้อเยื่อถูกทำลาย
- ฟิลเลอร์เกิดการย้ายตำแหน่ง ทำให้ใบหน้าหรืออวัยวะบริเวณนั้นผิดรูป เช่น จมูกทรุด ริมฝีปากเบี้ยว
- เส้นเลือดหรือเส้นประสาทถูกกดทับ เกิดอาการชาหรือปวดเรื้อรัง
- เนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีดมีเลือดไปเลี้ยงไม่สะดวก เกิดเป็นเนื้อตายในที่สุด
- กรณีติดเชื้อลุกลามรุนแรง อาจเกิดภาวะช็อกหรืออันตรายถึงชีวิต
นอกจากผลกระทบต่อร่างกาย ฟิลเลอร์ปลอมยังก่อให้เกิดผลเสียในด้านอื่นด้วย ไม่ว่าจะ
- ทำให้เกิดความวิตกกังวลและซึมเศร้า เพราะความกดดันเรื่องรูปลักษณ์ที่เสียโฉม
- ความยากลำบากในการรักษา เพราะการผ่าตัดหรือดูดฟิลเลอร์ปลอมออกทั้งหมดทำได้ยาก
- เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งจากการแก้ไขและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
- เกิดความเครียดและหมดความมั่นใจ หากมีรอยแผลเป็นหรือความพิการที่เกิดขึ้นถาวร
วิธีสังเกตลักษณะของฟิลเลอร์ปลอม เทียบกับฟิลเลอร์แท้
ถึงฟิลเลอร์ปลอมจะปลอมแปลงให้มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์แท้ แต่หากพิจารณาอย่างละเอียด จะสังเกตความแตกต่างได้จากหลายจุด ดังนี้
ราคาถูกผิดปกติ
ถ้าพบฟิลเลอร์ที่ราคาถูกผิดปกติ ควรสงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นฟิลเลอร์ปลอม เพราะฟิลเลอร์แท้จะต้องผ่านการรับรองจาก อย. และนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ทำให้ต้นทุนสูงกว่าฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานมาก เป็นไปได้ยากที่ราคาจะต่ำกว่ามาตรฐาน
บรรจุภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน
ฟิลเลอร์แท้จะบรรจุภัณฑ์ที่มาตรฐานและฉลากเป็นภาษาไทย ระบุข้อมูลสำคัญ อาทิ วันหมดอายุ เลขทะเบียน อย. ข้อมูลส่วนประกอบ และราคาไว้ชัดเจน ซึ่งภายในประกอบด้วยเข็ม หลอดยาที่ปิดสนิทด้วยจุกยาง มีครบจำนวนตามที่ระบุบนกล่อง และซองบรรจุมีข้อมูลเลขล็อตการผลิตที่ตรงกัน กรณีข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือมีลักษณะผิดแผกไป สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอม
ไม่แสดงเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย
ฟิลเลอร์แท้ต้องแสดงเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยจาก อย. ไว้ชัดเจน เพราะทุกแบรนด์ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนนำเข้ามาใช้
วางขายตามอินเทอร์เน็ต หรือผู้แอบอ้างเป็นแพทย์
ฟิลเลอร์ คือเวชภัณฑ์ควบคุมที่ต้องสั่งซื้อผ่านบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น โดยต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และยื่นเอกสารมากมายในการสั่งซื้อ ไม่สามารถหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไปได้ โดยเฉพาะการขายบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเสี่ยงได้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่มีมาตรฐานอย่างมาก
รวมถึงการฉีดฟิลเลอร์โดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือ “ หมอเถื่อน ” ก็เป็นสิ่งที่ต้องเลี่ยง เพราะเสี่ยงต่อการโดนฉีดด้วยฟิลเลอร์ปลอม และการใช้เทคนิคฉีดที่ไม่ถูกต้อง
วิธีตรวจและสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละแบรนด์
เพราะปัจจุบันมีผู้ให้บริการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์เทียมปะปนมาด้วย การสังเกตลักษณะกล่องและหลอดฟิลเลอร์เลยเป็นหนึ่งทักษะที่ผู้บริโภคควรรู้ เพื่อคัดกรองและป้องกันอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม
ซึ่งแต่ละแบรนด์ฟิลเลอร์แท้ที่จำหน่ายในไทย ต่างก็มีวิธีเฉพาะในการตรวจสอบของแท้ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ต่อไปนี้
Juvederm
Juvederm แบรนด์ยอดฮิตที่หลายคนไว้วางใจ ทำให้ฟิลเลอร์ปลอมพยายามปลอมแปลงสินค้าให้ดูคล้ายกับของแท้เสมอ วิธีตรวจฟิลเลอร์แท้ Juvederm คือ
- สังเกตเลขทะเบียน อย. พร้อมเอกสารกำกับภาษาไทยข้างกล่อง ที่ต้องระบุเลข 13 หลักอย่างชัดเจน ไม่มีแสดงว่าเป็นของปลอม
- สังเกตเลข LOT Number ที่ระบุบนสติ๊กเกอร์ กล่อง ซอง และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องเป็นเลขชุดเดียวกันทั้งหมด โดยเป็นตัวเลข 6 หลักตามด้วยตัวอักษร 2 ตัว เช่น 123456AB
- หากไม่มั่นใจสามารถโทรสอบถามเลข LOT Number ได้โดยตรงที่บริษัท Allergan ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
- ชุดอุปกรณ์ภายในกล่องต้องประกอบด้วย เข็ม 2 เล่ม หลอดฟิลเลอร์ที่ปิดสนิทด้วยจุกยาง 1 หลอด และเอกสารกำกับยาภาษาไทย 1 แผ่น ครบตามที่ระบุ
Restylane
Restylane อีกหนึ่งแบรนด์ฟิลเลอร์คุณภาพจากสวีเดนที่ได้รับความนิยม มีวิธีตรวจ Restylane ของแท้ คือ
- แสดงเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยบนกล่องอย่างถูกต้องชัดเจน
- มีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรม (Hologram) สีเงินปิดผนึกกล่อง เมื่อแกะออกจะมีคำว่า “VOID” ปรากฏให้เห็น
- มี QR Code แสดงข้างกล่อง เมื่อสแกนผ่านแอปพลิเคชัน eZTracker จะปรากฏข้อความ “ ผลิตภัณฑ์นี้ถูกนำเข้าโดยถูกต้องตามกฎหมาย ” พร้อมแสดงรายละเอียดสินค้า หากเป็นฟิลเลอร์ปลอมจะแสดงกล่องข้อความสีแดงเตือนขึ้นมา
- เลข LOT Number บนตัวหลอด กล่อง และสติ๊กเกอร์ ตรงกันทั้งหมด
- สามารถตรวจเลข LOT Number ได้โดยตรงกับ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
Neuramis
แบรนด์ฟิลเลอร์เกาหลี Neuramis อีกหนึ่งตัวเลือกยอดฮิตในตลาดบิวตี้ไทย วิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ คือ
- มีเลขจดทะเบียน อย. 13 หลัก รวมถึงฉลากและเอกสารกำกับภาษาไทย ปรากฎบนกล่องอย่างสมบูรณ์
- มี QR Code ระบุไว้ข้างกล่อง เมื่อสแกนจะต้องเจอรายละเอียดของสินค้า เช่น รูปภาพ ชื่อรุ่น ปริมาณ และข้อมูลผู้ผลิต ตรงกับข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์
- รูปแบบกล่องและหลอดฟิลเลอร์ภายใน มีลักษณะรายละเอียดตามมาตรฐานของแบรนด์ เช่น โลโก้ สีสัน ตำแหน่งข้อมูล และอุปกรณ์ภายใน
Belotero
แบรนด์ฟิลเลอร์ Belotero อีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพจากประเทศเยอรมนี ที่ได้รับอนุมัติจาก อย. ในการวางจำหน่ายในประเทศไทย วิธีเช็คของแท้สังเกตจาก
- มีเลขทะเบียน อย.13 หลัก พร้อมเอกสารฉลากและคู่มือภาษาไทยกำกับมาให้ครบถ้วน
- เลข LOT Number ที่ระบุบนสติ๊กเกอร์ กล่อง และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องเหมือนกันทั้งหมด
- หากสงสัยสามารถตรวจสอบเลข LOT Number ได้โดยตรงกับบริษัท Merz Pharmaceuticals (Thailand) ตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
- บรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในเป็นไปตามมาตรฐาน ประกอบด้วย เข็ม 2 ชิ้น หลอดฟิลเลอร์ 1 หลอด และเอกสารกำกับยาภาษาไทย เท่านั้น
Perfectha Subskin
ฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้อย่าง Perfectha ก็นิยมในไทยมากเช่นกัน วิธีการสังเกตของแท้ คือ
- กล่องและหลอดฟิลเลอร์มีเลขทะเบียน อย.13 หลักชัดเจน และแสดงเอกสารกำกับภาษาไทยครบถ้วน
- เลข LOT Number ที่ระบุบนกล่อง สติ๊กเกอร์ ซองบรรจุ และตัวหลอดฟิลเลอร์ ต้องตรงกันทั้งหมด
- สามารถตรวจสอบเลข LOT Number ที่สงสัยโดยตรงกับบริษัท อินเตอร์ฟาร์มา เซ็นเตอร์ จำกัด ได้ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักในประเทศไทย
- อุปกรณ์ภายในกล่องครบตามมาตรฐานของแบรนด์ โดย 1 กล่อง มีปริมาณฟิลเลอร์รวม 3 cc แบ่งบรรจุหลอดย่อยซองละ 1 cc จำนวน 3 ซอง
นอกจากตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว แนะนำให้เลือกใช้บริการจากสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีมาตรฐานเท่านั้น และควรขอให้แพทย์หรือพนักงานนำกล่องฟิลเลอร์ที่ใช้มาแกะให้ดูต่อหน้า พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง เพื่อติดตามตรวจสอบภายหลังได้ กรณีเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงผิดปกติ
การศึกษาวิธีสังเกตและตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ด้วยตัวเอง เป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันที่ผู้บริโภคไม่ควรมองข้าม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการได้รับฟิลเลอร์ปลอมโดยไม่ตั้งใจนั่นเองค่ะ
ข้อปฏิบัติก่อนและหลัง รับบริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการ ดังนี้
แนะนำการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- หยุดทานยาประเภทแอสไพริน NSAIDs วิตามินอี หรือสมุนไพรบางอย่าง ก่อนฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงการช้ำ
- เลี่ยงการแว็กซ์ ขัดหน้า ดึงหรือกำจัดขน บริเวณที่จะฉีด 3 วันล่วงหน้า
- ไม่ทำเลเซอร์หรือนวดหน้า 3 วันก่อนฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์หรือทำกิจกรรมที่เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนฉีดฟิลเลอร์
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดผลข้างเคียง
- เลี่ยงการจับ กด แตะ หรือเกาบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะจุดช้ำ
- อยู่ห่างจากความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชม. เช่น เว้นเข้าซาวน่า ตากแดด หรือออกกำลังกายหนัก
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 7 วัน
- งดอาหารหมักดอง แสลง หรือดิบเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดแต่งหน้า 24 ชม. งดการนวด ทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์ผิวหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปแล้ว
การฉีดฟิลเลอร์ปลอม เป็นปัญหาที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพโดยรวมของเราได้ ซึ่งในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไปแล้ว และต้องการที่จะแก้ไข เราสามารถทำได้ด้วยการขูด เลาะ หรือผ่าตัดฟิลเลอร์ออกเท่านั้น เนื่องจากฟิลเลอร์ปลอมอาจเป็นสารประกอบที่เต็มไปด้วยสารอันตรายต่าง ๆ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน ที่ไม่สามารถสลายเองได้
ซึ่งในขั้นตอนของการขูด เลาะ หรือผ่าตัดฟิลเลอร์ปลอมออก จะต้องเลือกใช้เครื่องมือทางการแพทย์เฉพาะทาง และดำเนินการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะในระหว่างทำจะต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้ และยังอาจไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด ดังนั้น ถ้าหากพบว่าตัวเองได้รับการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ควรรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้รักษาได้อย่างทันท่วงที โดยมีขั้นตอนในการเข้ารับการแก้ไขฟิลเลอร์ปลอม ดังนี้
- ปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
ถ้าหากสงสัยว่า ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเป็นของปลอม หรือเริ่มมีอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น บวมแดง อักเสบ หรือติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- ตรวจสอบชนิดของฟิลเลอร์ เพื่อวางแผนการรักษา
ถ้าหากฟิลเลอร์ปลอมที่ฉีดเข้าไป เป็นฟิลเลอร์ที่เป็นชนิดแบบชั่วคราว หรือที่ผลิตจาก Hyaluronic Acid แพทย์จะสามารถทำการสลายฟิลเลอร์ได้ แต่ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน วิธีนี้จะไม่ได้ผล และต้องการทำการขูด เลาะ หรือผ่าตัดฟิลเลอร์ออกแทน ซึ่งจะมีความซับซ้อน และใช้เวลาในการพักฟื้นที่นานกว่า
- รักษาอาการติดเชื้อ หรืออักเสบ
หากเกิดการติดเชื้อหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม แพทย์จะมีการวางแผนเพื่อให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบ และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่ในบางกรณีที่มีการติดเชื้อรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาการระบายหนองออก หรือกำจัดเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบ
- ฟื้นฟูสภาพผิว และรักษารอยแผลเป็น
หลังจากแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์ปลอมแล้ว ผู้ป่วยอาจต้องทำการพักฟื้นฟูผิวหน้าด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเลเซอร์ รักษารอยแผลเป็น หรือการดูแลด้วยเวชสำอางต่าง ๆ เพื่อคืนความเรียบเนียนให้กับผิวหน้า ให้กลับมาสดใสดังเดิม
วิธีหลีกเลี่ยงฉีดฟิลเลอร์ปลอม
ถ้าหากไม่อยากจะเสียเงิน เสียเวลา และเสียสุขภาพซ้ำซ้อนไปกับการแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์ปลอม เราขอแนะนำให้เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้จากคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ดังนั้น สำหรับคนที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- เลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องเท่านั้น
- เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง และให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพ
- เลือกฉีดฟิลเลอร์แท้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และมีความน่าเชื่อถือ เช่น ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane, Juvederm, หรือ Belotero
- หลีกเลี่ยงบริการฉีดฟิลเลอร์โดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือทำหัตถการในสถานที่ที่ไม่ใช่คลินิก หรือโรงพยาบาล เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับฟิลเลอร์ปลอม
- หลีกเลี่ยงบริการฉีดฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไป หรือมีโฆษณาเกินจริง เพื่อป้องกันการได้รับฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
สรุป
สรุปแล้ว ฟิลเลอร์ปลอม (Fake Filler) คืออันตรายที่มาพร้อมกับกระแสนิยมของการทำศัลยกรรมความงาม ที่หากฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงตามมาได้ภายหลัง
ฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่อยู่ในรูปของสารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ทำให้เกิดการสะสมอยู่ในชั้นผิวหนัง นำไปสู่ภาวะเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อ และอาการแพ้รุนแรง ปัจจุบันยังไม่มียาตัวไหนที่ฉีดสลายออกได้ ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเอาออกเท่านั้น
ผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์แท้ เลยต้องให้ความสำคัญกับการหาข้อมูล เพราะฟิลเลอร์ปลอมส่วนใหญ่จะมาในรูปของโปรโมชั่นราคาถูก โฆษณาสรรพคุณเกินจริง หรือจากบริการของสถานที่ที่ไม่มีใบอนุญาต แต่ถึงจะผลิตให้คล้ายกัน ก็ยังสังเกตความผิดปกติได้จาก ราคาที่ถูกเกินจริง บรรจุภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ติดเครื่องหมาย อย. หรือมีการแอบอ้างขายตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ ค่ะ