ตอบทุกข้อควรรู้ ก่อนทำโปรแกรม ฉีด เรเดียสซ์
-
โปรแกรม Radiesse คืออะไร?
-
โปรแกรม Radiesse ต่างจาก Biostimulator ตัวอื่นยังไง?
-
Radiesse ต่างจากฟิลเลอร์ยังไง?
-
โปรแกรมฉีด Radiesse อันตรายไหม?
-
ทำงานอย่างไร?
-
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
-
เหมาะกับใคร?
-
ฉีดจุดไหนดี?
-
เห็นผลเมื่อไหร่?
-
อยู่ได้นานแค่ไหน?
-
การดูแลตัวเองหลังทำ
-
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดโปรแกรม Radiesse
-
ข้อควรระวังในการฉีด
-
ผลข้างเคียงหลังทำ
-
ราคาเท่าไหร่?
-
รีวิว โปรแกรม Radiesse
โปรแกรม Radiesse คืออะไร?
โปรแกรม Radiesse หรือ เรเดียสซ์ เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนชนิดพิเศษที่ประกอบด้วย CaHA (คาห้า) หรือ Calcium Hydroxylapatite ซึ่งมีผลลัพธ์ในการเติมวอลลุ่มให้ผิวแบบเห็นผลทันทีและฟื้นฟูผิวถึง 5 องค์ประกอบในระยะยาว ดังนั้นเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาฟื้นฟูร่องริ้วรอย และผิวที่เสื่อมสภาพในระดับปานกลางถึงระดับสูงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รวมถึงบริเวณคอและหลังมือ
สำหรับ โปรแกรม Radiesse นั้น ได้ผ่านการรับรองจาก EU , US FDA และ อย.ไทย โดยคนมักจะเรียกชื่อตามตัวย่อ CaHA กันว่า “คาห้า”เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ซึ่งสารตัวนี้จะพบได้อยู่แล้วในกระดูกและฟัน ซึ่งปัจจุบันมักนำสารนี้มาใช้ในการแพทย์ เช่น การปลูกถ่ายกระดูกและการรักษาฟัน ด้วยความที่สารมีความเข้าได้กับร่างกายอย่างดี (Biocompatibility) และไม่เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อต้าน (non-immunogecin properties) จึงเป็นสารที่มั่นใจได้ในความปลอดภัย
โปรแกรม Radiesse ต่างจาก Biostimulator ตัวอื่นยังไง?
โปรแกรม Radiesse มีคุณสมบัติที่โดดเด่น เพราะ CaHA ใน Radiesse เป็น Biostimulator ที่จัดอยู่ในกลุ่มสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีความสามารถในการเพิ่มวอลลุ่มได้ด้วย ในขณะที่มี biostimulator อื่นๆ ที่นิยมใช้กันแต่ละตัวจะมีข้อดี ข้อเสีย และวิธีการฉีดที่แตกต่างกันไป
เรเดียสซ์ ต่างจากฟิลเลอร์ยังไง?
1. ส่วนประกอบหลัก : Radiesse มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA ส่วนฟิลเลอร์อื่นๆ มีส่วนประกอบหลักเป็น HA (เช่น Juvederm , Restylane) ซึ่ง CaHA โดดเด่นในส่วนของการกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกับการเพิ่มวอลลุ่มได้เล็กน้อย
2. ระยะเวลาสลาย : Radiesse อยู่ได้นานสุด คือ 1 ปี และฟิลเลอร์ บางยี่ห้อ เช่น Juvederm อยู่ได้นาน 1-2 ปี
3. ผลลัพธ์ที่ได้ : Radiesse (ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว และสามารถเติมเต็มวอลลุ่มได้เล็กน้อย ส่วน HA filler จะได้ผลการเติมเต็มเป็นหลัก
4. ลักษณะเนื้อฟิลเลอร์ : Radiesse ( จะมีความแข็งเหมาะกับการฉีดในร่องลึก และผิวที่ขาดวอลลุ่ม ส่วน HA filler จะมีทั้งชนิดที่ฉีดชั้นตื้นๆ และชั้นลึกได้ เพื่อเติมเต็ม
โปรแกรมฉีด Radiesse อันตรายไหม?
Radiesse ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือและการอนุมัติจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น EU, US, และ THFDA ผลิตภัณฑ์นี้ถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2006 และมีคุณสมบัติทางชีวภาพที่เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้อย่างดี ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนการรักษา นอกจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไป จะถูกย่อยสลายและขับออกจากร่างกายโดยสมบูรณ์
โปรแกรม Radiesse (อยู่ในการใช้งานโดยแพทย์ทั่วโลกมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี และมีผลงานวิจัยโปรแกรม Radiesse รองรับมากกว่า 250 ฉบับ นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมจากการใช้งานทั่วโลกโดยมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 15 ล้านไซริง อย่างไรก็ตามควรฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้เทคนิคที่เหมาะสม
โปรแกรม เรเดียสซ์ ทำงานอย่างไร?
เมื่อทำโปรแกรมฉีด Radiesse ที่ประกอบด้วยสาร CaHA เข้าไปใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการเติมเต็มวอลลุ่มและลดร่องลึกต่างๆ นอกจากนี้ สาร CaHA ที่มีลักษณะทรงกลมและเรียบจะสร้างโครงสร้าง Scaffold ที่คล้ายกับโครงตาข่ายสามมิติใน Extracellular Matrix (ECM) ในชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดแรงดึงที่เหมาะสม ซึ่งทำให้เซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนอย่างเซลล์ Fibroblast เริ่มทำงาน และสร้างเส้นใยคอลลาเจนในผิวหนังใหม่ โดยกระบวนการนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3-4 สัปดาห์ และค่อนข้างคงอยู่ในระยะยาวนาน 1 ปี ทำให้ผิวหน้าดูมีความกระชับ ริ้วรอยและร่องลึกลดลง
โปรแกรม เรเดียสซ์ ช่วยเรื่องอะไร?
สามารถฟื้นฟูโครงสร้างตาข่ายใต้ผิวหนังถึง 5 องค์ประกอบ อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ได้แก่
1. Collagen type 1 เพิ่มขึ้น 150% ช่วยให้ผิวกระชับ แน่นเฟิร์ม
2. Collagen type 3 เพิ่มขึ้น 130% ช่วยให้เกิดการเรียงตัวของ Collagen type 1 ได้อย่างเหมาะสม
3. Elastin เพิ่มขึ้น 260% ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอยและความหย่อยนคล้อยให้ดูดีขึ้นได้
4.Proteoglycan สารน้ำหล่อเลี้ยงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเต่งตึงแลดูอ่อนเยาว์
5.Angiogenesis สารอาหารหล่อเลี้ยงผิว กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตเพื่อผิวสุขภาพดี
โปรแกรม Radiesse เหมาะกับใคร?
- เหมาะสำหรับผู้ที่ใบหน้าเริ่มสูญเสียคอลลาเจน และอิลาสติน
- ขาดการบำรุง มีสุขภาพผิวที่ไม่แข็งแรง
- ผู้ที่ใบหน้าหย่อนคล้อยและกรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่ผิวหนังขาดความชุ่มชื่นและมีร่องลึกต่างๆ บนใบหน้า เช่นร่องแก้ม ร่องน้ำหมากและรอยย่นรอบปาก
- ผู้ที่มีความเหี่ยวย่นในบริเวณหลังมือและคอ รวมถึงเนินอก
โปรแกรม Radiesse ฉีดจุดไหนดี?
โปรแกรม Radiesse เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นผิวให้แข็งแรง สดใสขึ้น และช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวหนัง นอกจากนี้ Radiesse ยังมีลักษณะเด่นคือสามารถทดแทนคอลลาเจน อินลาสติน และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ ของผิวหนังได้อย่างดี โดยมีตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีด ดังนี้
- หน้าแก้ม ช่วยยกกระชับ หน้าเด็กลง และทำให้ดูผิวดีขึ้นอีกด้วย
- ร่องน้ำหมาก ถ้าเส้นชัดจะทำให้ดูมีอายุ และถ้าเชื่อมไปกับร่องแก้มก็จะยิ่งเป็นปัญหาทำให้ดูแก่กว่าวัยมากขึ้น
- ร่องแก้ม สามารถเติมเพื่อทำให้หน้าดูเด็กลง และทำให้ร่องตื้นขึ้นได้
- กรอบหน้า คมชัดยิ่งขึ้น ช่วยให้ใบหน้ากระชับขึ้น
- ขมับ แก้ปัญหาขมับตอบ ที่ทำให้ดูมีอายุ ใบหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน
- หลังมือ เมื่ออายุมากขึ้น จะเกิดการสูญเสียไขมัน ทำให้เห็นเส้นเอ็นและเส้นเลือดชัดเจน โปรแกรม Radiesse จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และผิวบริเวณหลังมือให้ดูเต็ม เรียบเนียนและช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมือ
- เนินอก โปรแกรม ฉีด Radiesse แก้ปัญหาผิวย่นบริเวณเนินอก ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ลง
เห็นผลเมื่อไหร่?
1. ผลลัพธ์หลังฉีด : หลังทำโปรแกรมฉีด Radiesse จะเกิดฤทธิ์การยกของผิวที่เกิดความกระชับและร่องลึกต่าง ๆ ที่ตื้นขึ้น ริ้วรอยลดลง อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ผลลัพธ์ระยะยาว : หลังทำโปรแกรมฉีด Radiesse เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ CaHA จะเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น วอลลุ่มดีขึ้น ผิวบริเวณที่ฉีดจะมีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น
อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมฉีด Radiesse นั้นจะอยู่ได้นานกว่า 1 ปี และยังสามารถอยู่ได้นานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคนไข้ ตำแหน่งที่ฉีด ลักษณะผิวที่ฉีด และอายุของผู้รับการรักษา ซึ่งผลของ CaHA ทำให้ Radiesse ป็นฟิลเลอร์ที่มีผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนาน
การดูแลตัวเองหลังทำ
หลังฉีดอาจทำให้เกิดอาการแดง, ช้ำ, บวม, คัน, และกดเจ็บบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งส่วนมากจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมงหรือ 2-3 วัน แต่ในบางคนที่ช้ำง่ายอาจใช้เวลานานถึง 14 วันได้ ดังนั้นควรสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น บวมมากผิดปกติ มีอาการแดงร้อนบริเวณที่ฉีด หรือหากมีอาการไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์
- หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ อยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูง และแสงแดดจัดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หากมีอาการบวมมากควรประคบเย็น แต่ห้ามประคบร้อน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มแอสไพรินหรือ NSAID อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีอาการปวดแนะนำให้ทานพาราเซตามอล
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดโปรแกรม Radiesse
- ผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร หรือกำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้อย่างรุนแรง หรือ Anaphylaxis
- ผู้ที่เคยมีอาการแพ้โปรแกรม Radiesse มาก่อน
ข้อควรระวังในการฉีด
- ถ้ามีสิวหรือแผลบริเวณนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำโปรแกรมฉีด Radiesse
- หากมีประวัติเป็นโรคเริม ควรแจ้งแพทย์ที่เกี่ยวข้องก่อนทำโปรแกรมฉีด Radiesse
- ถ้าต้องการฉีดโปรแกรม Radiesse รอบริมฝีปากหรือบริเวณรอบดวงตา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเหมาะสมและควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์
- ถ้าต้องทำการ X-ray หรือ CT Scans ควรแจ้งแพทย์ที่รับผิดชอบว่าได้รับการทำโปรแกรมฉีด Radiesse มาแล้ว
- หากมีประวัติเป็นโรคเริม ควรแจ้งแพทย์ที่เกี่ยวข้องก่อนทำโปรแกรมฉีด Radiesse
- ถ้ากำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือดหรือยาที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน ควรรับแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอาการเลือดออก หรือรอยช้ำหลังทำการฉีดโปรแกรม Radiesse
ผลข้างเคียงหลังทำ
- อาจมีรอยแดงหรือรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ชั่วคราว รวมทั้งอาการคันบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง
- อาจมีอาการปวดบริเวณรอยเข็ม ห้ามไปจับหรือเกา เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
- อาจมีการเปลี่ยนสี เช่น ผิวซีดลงในบริเวณที่ทำการรักษา หากเกิดกรณีนี้ให้ปรึกษาแพทย์ในทันที
ราคาเท่าไหร่?
ราคาโปรแกรม Radiesse ปกติ 1.5 cc หรือ 1 หลอด ราคาปกติ 50,000 บาท โดยที่ อะมารันเต้ คลินิก มีโปรโมชั่นพิเศษเหลือเพียง 36,000/หลอด และหากซื้อเป็นแพคเกจ 3 หลอด เพียง 95,000 บาท (คุณหมอต้น) และเพียง 86,400 บาท (ทีมแพทย์)
โดยปริมาณยาที่ใช้ 1 ตำแหน่ง 1 หลอด เช่น ร่องแก้ม 1 หลอด ร่องน้ำหมาก 1 หลอด แต่ถ้าเป็นมือต้องใช้ข้างละ 1 หลอด
โปรแกรม เรเดียสซ์ รีวิว
ดาราและ Celebrity ไว้วางใจมากมาย เข้ารับบริการ ที่ Amarante clinic เป็นจำนวนมาก
ขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่สนใจโปรโมชั่นดีๆ ของ Amarante Clinic นะคะ
🚩อย่าลืมแอดไลน์ เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ
😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
- Line คลิก
- Inbox Facebook คลิก
- Instagram คลิก
- WhatsApp คลิก
📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)
📞080-3936669
📍สาขาบางนา : For You Park
📞080-5565294
📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย
🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.