เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่ใช้สื่ออารมณ์ เวลาเราจะพูดคุยกับใครก็ต้องอาศัยการมองตานี่แหละเป็นจุดเชื่อมสัมพันธ์ ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ หย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา มีริ้วรอย หรือตาดูลึกโหล จึงถูกสังเกตได้ง่ายมาก ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ ปัญหาเหล่านี้อาจแก้ได้โดยเร็วและง่ายด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งทาง Amarante Clinic ก็ได้นำข้อมูลราคา ยี่ห้อฟิลเลอร์ การดูแลหลังฉีด พร้อมรีวิวก่อน-หลังฉีดจากเคสจริงมาให้ชมกันแล้ว
สารบัญ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler) คือสารเติมเต็มผิวใกล้เคียงธรรมชาติประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ฉีดบริเวณใต้ตาที่หมองคล้ำ มีริ้วรอย มีความหย่อนคล้อย หรือดูลึกโหล ให้กลับมาอิ่มฟู กระจ่างใส ทำให้ดูอ่อนเยาว์ สดใส และรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไร เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดูหมองดูโทรม ไม่ว่าจะเกิดจากริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือความหมองคล้ำ โดยจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้เป็นพิเศษ
1. ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตา มีรอยตีนกา
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณต่างๆ รวมถึงใต้ตาก็จะค่อยๆ สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ในที่สุดจึงเกิดเป็นริ้วรอยใต้ตาและรอยตีนกา ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเข้าไปเติมเต็มและปรับสภาพผิวให้อิ่มฟูเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมกลับมาดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
2. ผู้ที่มีขอบตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำ
ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาหมองคล้ำ จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนหนึ่งจะเกิดจากผิวรอบดวงตาที่บางลงจากอายุที่มากขึ้นจนเห็นเส้นเลือดชัด การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาซึ่งมีผลทำให้ผิวใต้ตาดูฟูและหนาขึ้น จึงสามารถเข้ามาแก้ปัญหาในจุดนี้ได้
3. ผู้ที่มีถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย
ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยก็เป็นอีกปัญหากวนใจที่เกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น จากการเสื่อมของคอลลาเจน อีลาสติน ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง รวมถึงการยุบตัวของกระดูกที่อาจเกิดขึ้นกับบางคน การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มและพยุงผิวในชั้นลึก ก็จะช่วยปรับถุงใต้ตาให้กระชับขึ้นได้
4. ผู้ที่มีตาโหล ตาโบ๋ เบ้าตาลึก
ปัญหาตาโหล ตาโบ๋ เบ้าตาลึก มักเกิดจากการยุบตัวของกระดูกและการเสื่อมลงของเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตา ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ขาดความสดใส ซึ่งก็จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเช่นเดียวกับปัญหาอื่นๆ
ฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม มีจุดเด่นอย่างไร
ปัญหาต่างๆ บริเวณใต้ตา แท้จริงแล้วสามารถแก้ไขได้หลายวิธี แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้
- เห็นผลทันที การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายในระยะเวลาประมาณ 14 วัน
- ไม่ต้องพักฟื้น การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผล หลังทำจึงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องมีช่วงพักฟื้น
- เจ็บตัวน้อย ด้วยความที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลนี่เอง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงนับว่าเป็นหัตถการที่ทำแล้วเจ็บตัวน้อย
- แก้ไขได้ง่าย ฟิลเลอร์ที่ฉีดจะสามารถฉีดเติมหรือฉีดสลายได้ในภายหลัง การปรับเปลี่ยนแก้ไขจึงทำได้ง่ายกว่าหัตถการอื่นๆ
- ปลอดภัยสูง กรดไฮยาลูรอนิคจะเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในผิวอยู่แล้ว ทั้งยังสามารถสลายได้เอง การฉีดฟิลเลอร์จึงนับว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
ใครบ้างไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน โดยจะไม่เหมาะกับกรณีเหล่านี้
- ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตาใกล้ขอบตาเกินไป กรณีนี้การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิดถุงใต้ตาได้
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตามาก ซึ่งเกิดร่วมกับปัญหาชั้นผิวขาดคอลลาเจนรุนแรง การฉีดฟิลเลอร์ในกรณีนี้อาจเกิดเป็นลำเป็นก้อน เพราะผิวที่บางและขาดความยืดหยุ่นเกินไปจะไม่สามารถพยุงฟิลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อฉีดไประยะหนึ่ง
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ได้ผลดีและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก็จะมีข้อแนะนำดังนี้
- งดยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแน็ก เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะยากลุ่มนี้จะทำให้เสี่ยงเลือดออกมากขึ้น
- งดอาหารเสริมที่มีฤทธิ์รบกวนการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียมสกัด โสมสกัด ใบแปะก๊วยสกัด น้ำมันพริมโรส น้ำมันปลา วิตามินอี และ St. John’s Wort เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดรบกวนผิวบริเวณใต้ตา เช่น ขยี้ตารุนแรง ทายาหรือใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 3 วันก่อนฉีด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกาย อบไอน้ำ ซาวน่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- แจ้งข้อมูลแพทย์ให้ครบถ้วนแต่เนิ่นๆ ซึ่งได้แก่ ประวัติการทำหัตถการที่ผ่านมา ประวัติการแพ้ โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ใช้ เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินและให้คำแนะนำในการเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
- ประเมินวิเคราะห์ปัญหาร่วมกับแพทย์ผู้ฉีด เพื่อเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์
- แปะยาชาอย่างน้อยประมาณ 30 นาที
- แพทย์ทำการฉีดยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์
- แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์แก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตา
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะมีข้อห้ามและการดูแลตัวเองที่ควรปฏิบัติดังนี้
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
- ดูแลร่างกายให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ทั้งจากอาหารและน้ำดื่ม เพราะฟิลเลอร์จะอาศัยการจับกับโมเลกุลน้ำ เพื่อให้อิ่มฟูได้รูปและสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน
- งดแต่งหน้า ภายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังฉีด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
- เลี่ยงการขยับใบหน้าเยอะ เช่น การยิ้มกว้าง เบิกตากว้าง ขยิบตาแรงๆ ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
- เลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ อย่างน้อย 2 วันหลังฉีด เพราะจะทำให้ช้ำง่ายขึ้น และอาจทำให้ขาดสติในการควบคุมดูแลตัวเอง
- เลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา เช่น ขยี้ตา ถูตา ถ่างตา ภายในช่วง 3 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- งดใช้ยาหรือสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว ภายในช่วง 3 วันหลังฉีด เพราะอาจทำให้ผิวคัน แสบ หรือระคายเคือง
- เลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อน เช่น โดนแดด น้ำอุ่น น้ำร้อน ไดร์เป่าผม ซาวน่า ไอจากการทำอาหาร ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด
- เลี่ยงการแว็กซ์ขนหรือทำหัตถการบริเวณที่ฉีด ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด หากมีความจำเป็นจริงๆ ให้ปรึกษาแพทย์อย่างถี่ถ้วนเสียก่อน
- อาจประคบเย็นเมื่อมีอาการบวม โดยใช้ Cool Pack หรือผ้าสะอาดห่อถุงน้ำแข็ง
ฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล
ทั่วไปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเริ่มเห็นผลได้ทันที และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายใน 14 วัน ทั้งนี้ บางคนก็อาจมีอาการบวม แดง หรือปวดเล็กน้อยได้ชั่วคราว ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานไหม
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด สภาพร่างกายของแต่ละคน เป็นต้น ซึ่งคร่าวๆ แล้วก็จะอยู่ได้นาน 6 เดือน – 2 ปี
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะนับว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะจะใช้กรดไฮยาลูรอนิคซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในผิว ทั้งยังสามารถสลายได้เอง แต่ก็ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
กรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือแพทย์ผู้ฉีดขาดความชำนาญ ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียหรืออันตรายต่างๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์เป็นลำ เป็นก้อนแข็ง เนื้อฟิลเลอร์ขรุขระเป็นคลื่น ฟิลเลอร์ย้อย ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด อักเสบ เกิดเนื้อตาย เกิดเส้นเลือดอุดตัน ตาบอด เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาทำให้ตาบอดจริงไหม
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ทำให้ตาบอด เกิดจากเข็มที่ฉีดทะลุเข้าหลอดเลือด แล้วฟิลเลอร์หลุดเข้าไปอุดตันในหลอดเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ซึ่งเกิดจากแพทย์ผู้ฉีดขาดความชำนาญ ด้วยเหตุผลนี้เอง การฉีดฟิลเลอร์จึงควรเลือกฉีดเฉพาะจากแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น
ที่ Amarante Clinic ทุกครั้งก่อนฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ผิวหน้า แพทย์จะทำการเทสก่อนว่าปลายเข็มฟิลเลอร์อยู่ในเส้นเลือดหรือเปล่า ซึ่งเป็นเทคนิคในการป้องกันอีกชั้น นอกจากนี้แล้ว เข็มที่ใช้ก็จะเป็นเข็มชนิดทู่ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด และลดการเกิดอาการบวมและเขียวช้ำหลังฉีดได้
ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์จะคิดราคาเป็นต่อ 1 CC จึงต้องคูณปริมาณที่ใช้ทั้งหมดเพื่อให้ได้ราคารวมออกมา ยกตัวอย่างเช่น หากฟิลเลอร์ใต้ตา 1 CC ราคา 15,000 บาท และต้องใช้ทั้งหมด 2 CC ราคารวมก็จะคิดได้เป็น 30,000 บาท ทั้งนี้ ราคาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- คุณภาพและประเภทของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและคุณภาพที่ต่างกัน ส่งผลให้มีราคาที่หลากหลาย การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้รับบริการจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดต้นทุน
- มาตรฐานของสถานพยาบาลและการบริหารจัดการ ต้นทุนในส่วนนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ สถานที่ที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย พนักงานที่เป็นมืออาชีพ และการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเหมาะสม
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ให้บริการ แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการกำหนดคุณภาพของการรักษา เพราะจะมีผลต่อทั้งการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การเลือกประเภทและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม รวมถึงการใช้เทคนิคการฉีดที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับแต่ละเคส
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ควรเลือกเฉพาะจากราคาถูก เพราะมีโอกาสสูงที่จะพบปัญหาต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ปลอม แพทย์เถื่อน แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ ซึ่งในกรณีที่เกิดปัญหากับใบหน้า นอกจากจะต้องเสียเงินเสียเวลาเพื่อแก้ไขแล้ว ก็ยังอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจและเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้อีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตาฉีดกี่ CC
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้กี่ CC นั้น จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน โดยแพทย์จะต้องประเมินและวิเคราะห์ถึงสาเหตุและความรุนแรงของปัญหาเสียก่อน
โดยคร่าวแล้ว ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาไม่มาก ไม่มีปัญหาที่โครงสร้างชั้นลึก ก็จะใช้ปริมาณเพียง 1-2 CC ก็พอ ส่วนผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ชั้นไขมันฝ่อตัว หรือกระดูกยุบตัวลง ก็อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 2-3 CC ขึ้นไป ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาร่วมด้วย จากผิวหนัง กล้ามเนื้อ และเอ็นยึดบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อย ก็อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ตั้งแต่ 3 CC ขึ้นไป
อ่านเพิ่มเติม : ปัญหาใต้ตาลึก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์สำหรับฉีดบริเวณใต้ตา หากเป็นชั้นตื้นจะต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความละเอียดสูง ฉีดแล้วไม่ฟูเยอะ เพื่อป้องกันไม่ให้ใต้ตาบวม ยิ้มแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ ส่วนการฉีดชั้นลึกจะต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เพื่อให้ช่วยแทนที่กระดูกที่ยุบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการฉีดใต้ตาก็ได้แก่
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm
เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ใช้เทคโนโลยี Vycross ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลยึดเกาะที่หนาแน่น มีอัตราการบวมน้ำน้อย ผลลัพธ์หลังฉีดจึงเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และคงอยู่ได้ยาวนาน ตัวอย่างรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตาก็อย่างเช่น
- Juvederm Vobella ผลคงอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volift ผลคงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Juvederm Voluma ผลคงอยู่ได้นาน 18-24 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane
เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma ใช้เทคโนโลยี NASHA ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีเนื้อแน่น คงรูปได้ดี มีแรงยกมาก และใช้เทคโนโลยี OBT ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวและยืดหยุ่นดี ตัวอย่างรุ่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ที่นิยมใช้ฉีดใต้ตาก็อย่างเช่น
- Restylane Lyft ผลคงอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Restylane Defyne ผลคงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- Restylane Volyme ผลคงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี
การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ก็ควรพิจารณาคลินิกจากปัจจัยต่อไปนี้
- ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย คลินิกที่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือเป็นคลินิกเถื่อน ซึ่งก็มักจะมาพร้อมปัญหาต่างๆ เช่น แพทย์เถื่อน ฟิลเลอร์ปลอม สถานที่และเครื่องมืออุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ส่งผลให้ผู้รับบริการเสี่ยงเกิดอันตรายสูงขึ้น
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการจดแจ้งกับทาง อย. เนื่องจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมจะทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อย เกิดการติดเชื้อ เกิดเนื้อตาย เป็นต้น ซึ่งในรายที่แก้ไขด้วยการผ่าตัดขูดออกไม่ทัน ก็มีโอกาสเกิดอันตรายร้ายแรงต่างๆ ตามมา
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่มีความละเอียดอ่อน การฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลดีและปลอดภัยจึงจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง
- มีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิวการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดีซึ่งมาจากผู้ใช้บริการจริงจะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ได้เป็นอย่างดี ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกคลินิกจึงไม่ควรมองข้ามในจุดนี้
- ให้บริการอย่างจริงใจและโปร่งใส คลินิกที่ดีจะต้องมีความซื่อสัตย์ แจ้งค่าใช้จ่ายอย่างตรงไปตรงมา ไม่ยัดเยียดขายบริการที่ไม่จำเป็น ไม่ปรับแต่งรูปรีวิวเพื่อหลอกลวง ไม่ให้ข้อมูลหัตถการที่เกินจริง หรือเรียกได้สั้นๆ ว่า มองที่ประโยชน์ของผู้รับบริการเป็นสำคัญ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Amarante Clinic
Amarante Clinic เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการฉีดฟิลเลอร์ มียอดการใช้ฟิลเลอร์ติดอันดับท็อปของประเทศไทยต่อเนื่องทุกปี โดยเบื้องหลังความสำเร็จจะอยู่ที่ความใส่ใจในการรักษา การให้บริการที่จริงใจ ความทันสมัยและมีคุณภาพของเครื่องมือและสถานที่ ตลอดจนทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งนำโดยคุณหมอต้น นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ผู้ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่ง AMI Trainer ประจำประเทศไทย
อ่านเพิ่มเติม : รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จากดาราและผู้รับบริการจำนวนมาก