ฟิลเลอร์ eptq เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแบรนด์น้องใหม่สัญชาติเกาหลี คุณภาพดีไม่แพ้ฝั่งยุโรป แต่มีราคาถูกกว่ามาก สำหรับใครที่ยังลังเลไม่แน่ใจว่าฟิลเลอร์ eptq ดีจริงไหม ? ฉีดแล้วจะเป็นอันตราย หรือมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่ ? บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ eptq แบบเจาะลึก พร้อมตอบคำถามที่ทุกคนสงสัย ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
E.P.T.Q. คืออะไร
eptq คือแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท JETEMA, Co., Ltd. ครั้งแรกในปี 2014 มีจำหน่ายมากกว่า 63 ประเทศทั่วโลก ส่วนไทยนำเข้ามาโดยบริษัท Aestema Co. Ltd. เป็นครั้งแรกในปี 2019
ฟิลเลอร์ eptq เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) ที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการรับรองจากอย. ไทย, KFDA ของเกาหลี, USFDA ของสหรัฐอเมริกา และ EDQM ยุโรป eptq filler เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มในชั้นผิวหนังชั้นตื้นและชั้นกลาง เพื่อลดเลือนริ้วรอย เสริมปริมาตร และปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลขึ้น
จุดเด่นของ E.P.T.Q. ฟิลเลอร์
- ความปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์ eptq ใช้สารตั้งต้นไฮยาลูรอนิกที่มีความบริสุทธิ์สูง จากสหรัฐอเมริกา ควบคุมการผลิตที่เข้มงวดภายใต้มาตรฐาน “THE 9 PROCESS”
- ความยืดหยุ่นสูง โครงสร้างแบบรวงผึ้ง ทำให้ฟิลเลอร์ eptq มีความยืดหยุ่นสูง ปรับรูปทรงได้ง่าย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แม้ใช้กับบริเวณที่มีการขยับเยอะ
- ระดับ MOD ต่ำ หรือค่าที่ใช้วัดความยืดหยุ่นของฟิลเลอร์ ค่าที่ต่ำแสดงถึงฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวเข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ดี ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และช่วยลดโอกาสเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียง
- ราคาเข้าถึงง่าย ฟิลเลอร์ eptq มีราคาประมาณ 6,500 – 10,000 บาทต่อ 1 cc ซึ่งเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์จากแบรนด์ฝั่งยุโรป
E.P.T.Q. ต่างกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร
สิ่งที่ทำให้ฟิลเลอร์ eptq แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นคือ การใช้เทคโนโลยี 2CM (Two Crosslinking Method Technology)
เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ eptq ในการผลิต ประกอบด้วยการ cross-linking 2 แบบ คือ Chemical cross-linking และ Physical cross-linking ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สาร BDDE ปริมาณมากในกระบวนการผลิต ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ eptq ให้มีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดี คงทนมากขึ้น ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์ eptq ทุกรุ่นมีความเข้มข้นของสารไฮยาลูรอนิกอยู่ที่ 24 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เท่ากัน และมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) 0.3% ช่วยลดความเจ็บขณะฉีดเหมือนกัน แต่จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ลักษณะของเนื้อฟิลเลอร์ ขนาดโมเลกุล ความนิ่ม ความแน่น ความยืดหยุ่น ความคงตัว ความสามารถในการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ eptq ให้เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด โดยรุ่นที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทย ได้แก่
E.P.T.Q. S100 (สีเขียว)
ฟิลเลอร์ eptq รุ่น S100 เป็นรุ่นที่เนื้อนิ่มที่สุด อนุภาคเล็ก เนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อน ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมาก เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นตื้น เช่น ร่องใต้ตา ริ้วรอยหางตา ริ้วรอยตื้นๆ บนใบหน้า ลดความหมองคล้ำใต้ตา หรือฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว
E.P.T.Q. S300 (สีส้ม)
ฟิลเลอร์ eptq รุ่น S300 มีเนื้อนิ่มปานกลาง ยืดหยุ่นดี และมีความหนืดด้วย จึงเกาะกับผิวได้ดี ปั้นทรงขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับฉีดในผิวชั้นกลางและลึก ใช้ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ฉีดเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปาก ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เติมเต็มแก้มตอบ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
E.P.T.Q. S500 (สีน้ำเงิน)
ฟิลเลอร์ eptq รุ่น S500 เป็นรุ่นที่เนื้อแข็งที่สุด ความหนาแน่นและความคงตัวสูง เหมาะสำหรับการฉีดเสริมกระดูก หรือฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกระดับปานกลางถึงมาก รวมถึงปรับรูปหน้า เช่น ฉีดคาง จมูก และแนวกราม เป็นต้น
ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. ฉีดบริเวณไหน
ฟิลเลอร์ eptq สามารถฉีดได้ทุกตำแหน่งบนใบหน้า เช่น การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก, ฟิลเลอร์ขมับ, ฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์จมูก, ฟิลเลอร์แก้มส้ม, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฟิลเลอร์ปาก, ฟิลเลอร์คาง หรือฟิลเลอร์กรอบหน้า ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเลือกรุ่นของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
E.P.T.Q. Filler อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์ eptq อยู่ได้ประมาณ 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด การดูแลตัวเองหลังฉีด หรือรุ่นของฟิลเลอร์ eptq ที่เลือกใช้ หากเป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความหนาแน่นสูง ก็จะสลายช้ากว่าฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ดังนั้นฟิลเลอร์ eptq รุ่น S500 จึงเป็นรุ่นที่อยู่ได้นานที่สุด เฉลี่ยประมาณ 12-15 เดือน ส่วนฟิลเลอร์ eptq รุ่น S100 จะอยู่ได้น้อยที่สุด เฉลี่ยประมาณ 6-9 เดือน
E.P.T.Q. Filler อันตรายไหม
ฟิลเลอร์ eptq ถือเป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง มีการควบคุมมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวดในทุกขั้นตอน และยังผ่านการรับรองจากอย. ในหลายประเทศ ทั้งในไทย เกาหลี สหรัฐอเมริกา และยุโรป แต่การฉีดฟิลเลอร์ eptq ให้ปลอดภัยก็ต้องฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์ และมีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ด้วย รวมถึงต้องเช็กให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์ eptq นั้นเป็นของแท้ เพราะหากเป็นฟิลเลอร์ eptq ปลอมไม่ได้มาตรฐาน ก็มีโอกาสที่ฉีดไปแล้วจะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
E.P.T.Q. Filler เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ปรับผิวให้ดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- ผู้ที่ผิวหนังเหี่ยวย่นเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำ มีชีวิตชีวา
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาตรส่วนต่างๆ ของใบหน้า เช่น ขมับ, คาง, จมูก, ริมฝีปาก
- ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม เน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. ราคาเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์ eptq ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 8,000 บาทต่อ CC ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่สูงมาก แต่มีความสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ จึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด
ราคาของฟิลเลอร์อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละคลินิก การจัดโปรโมชั่น ตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงรุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ด้วย
วิธีเช็ก E.P.T.Q. ของแท้
เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ จึงต้องตรวจเช็กให้แน่ใจทุกครั้งก่อนฉีดว่าฟิลเลอร์ eptq ที่ทางคลินิกนำมาใช้เป็นของแท้หรือไม่ โดยมีวิธีการสังเกต ดังนี้
- สีของโลโก้ eptq ต้องตรงกับรุ่น โดยฟิลเลอร์ eptq รุ่น S500 โลโก้เป็นสีน้ำเงิน, ฟิลเลอร์ eptq รุ่น S300 โลโก้เป็นสีส้ม และฟิลเลอร์ eptq รุ่น S100 โลโก้เป็นสีเขียว
- บนกล่องระบุชื่อยี่ห้อ, ชื่อรุ่น, เลขทะเบียนอย., เลข Lot., วันหมดอายุ ชัดเจน
- ด้านข้างกล่องมีโลโก้บริษัท Aestema Co. Ltd.
- ภายในกล่องฟิลเลอร์ eptq มีเอกสารกำกับภาษาไทยชัดเจน
- บนกล่องของฟิลเลอร์ eptq มี QR code เมื่อขูดออกและใช้มือถือสแกนจะมีข้อความยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นของแท้ พร้อมแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ eptq ทั้งรูปภาพ, ชื่อผลิตภัณฑ์, ชื่อรุ่น, เลขที่จดทะเบียน, เลข Lot., วันที่ผลิต, วันหมดอายุ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดต้องตรงกับที่ระบุไว้บนกล่อง และ QR code นี้จะสแกนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากมีการสแกนซ้ำ จะมีข้อความแจ้งเตือนทันที
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ E.P.T.Q.
- งดยา วิตามิน อาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs, วิตามินอี, น้ำมันพริมโรส, สารสกัดจากโสม, ใบแปะก๊วย, กระเทียม เป็นต้น
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ 3 วันก่อนฉีด เช่น BHA, AHA, Tretinoin, Retinols, Retinoids
- หากจะทำเลเซอร์ หรือนวดหน้า ควรทำก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังฉีดต้องเว้นระยะห่างไปอีก 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนักๆ
- หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องรับประทานประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ E.P.T.Q.
- งดสัมผัส บีบ นวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- นอนหงายให้ศีรษะสูงกว่าหน้าอก งดนอนตะแคง 2- 3 วัน เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ตากแดด ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซาวน่า อบไอน้ำ
- งดทำเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึก 1 เดือน
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- งดอาหารรสจัด อาหารดิบ อาหารหมักดอง
- ดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูและอยู่ได้นานขึ้น
สรุป
สรุปแล้วฟิลเลอร์ eptq จากประเทศเกาหลีใต้ กลายเป็นที่นิยมและใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ตอบโจทย์คนที่มีงบประมาณน้อย มาพร้อมกับคุณภาพดีและมีความปลอดภัย สามารถใช้แก้ปัญหาได้หลากหลาย เช่น ช่วยลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับ ปรับสภาพผิวหรือโครงสร้างใบหน้าให้มีสัดส่วนที่สมดุล
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาเพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินปัญหา วางแผนแนวทางการรักษา รวมถึงเลือกรุ่นฟิลเลอร์ eptq ให้เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามดูเป็นธรรมชาติ