กระลึก กระตื้น ต่างกันอย่างไร? เลเซอร์ช่วยได้จริงไหม?
รอยจุดสีน้ำตาลที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าหรือที่หลายคนเรียกว่า ‘กระ’ เป็นปัญหาผิวหนังที่บั่นทอนความมั่นใจของใครหลายคน เราอาจคิดว่ากระมีแบบเดียว แต่ที่จริงแล้ว กระยังสามารถแบ่งได้หลายประเภท ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
กระคืออะไร
กระ (Freckles) เป็นจุดเม็ดสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้มบนผิวหนัง มีขนาดเล็ก เกิดขึ้นได้บนใบหน้าและอาจกระจายไปยังบริเวณอื่นๆ ตามร่างกาย เช่น ลำคอ แขน เป็นต้น กระสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่มักพบในคนที่มีผิวสีขาวหรือคนตะวันตกมากกว่าคนตะวันออก
ประเภทของกระมีอะไรบ้าง
กระมีทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน คือ
-
กระลึก
เป็นรอยที่มีลักษณะคล้ายกับจุดหรือปื้น มีสีน้ำตาล ในบางครั้งอาจเป็นแบบแผ่นหรือแบบเส้นที่รวมตัวกันจนเกิดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ กระลึกมักพบตามส่วนต่างๆ บนใบหน้า เช่น แก้ม จมูก หน้าผาก เป็นต้น
-
กระตื้น
มีลักษณะเป็นจุดหรือรอยปื้นสีน้ำตาลขนาดเล็ก จะมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อมีแสงแดดมากระทบบริเวณนั้น มักพบบ่อยบริเวณโหนกแก้มและจมูก
-
กระแดด
มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ขอบชัด ขนาด 0.3-2 เซ็นติเมตร ในบางคนอาจจะมีรอยแห้งปรากฏให้เห็นด้วย พบในบริเวณที่ถูกแสงแดดเป็นเวลานานตามใบหน้าและลำตัว
-
กระเนื้อ
มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีรอยสีน้ำตาลหรือดำบนผิวหนัง มีขนาดไม่ใหญ่มากขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในบางกรณีกระเนื้ออาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งผิวหนังได้
ความแตกต่างระหว่าง กระลึก และ กระตื้น
โดยทั่วไป กระลึกและกระตื้น จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากสีและขนาด โดยกระลึกจะมีสีเข้มกว่ากระตื้น และกระลึกจะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ รวมกันจนกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มักเกิดที่ชั้นผิวหนังแท้ ส่วนกระตื้นจะเป็นจุดเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วใบหน้า มักเกิดที่ชั้นหนังกำพร้า
นอกจากนี้กระลึกมักพบในคนเชื้อสายเอเชียและคนที่มีผิวสีขาว อีกทั้งยังสามารถพบได้ในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือรับประทานยาคุมกำเนิด ส่วนกระตื้นจะพบได้ในคนผิวขาวและบาง เพราะผิวหนังไม่สามารถป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้ดีเท่าคนผิวคล้ำที่มีเม็ดสีมากกว่า จึงช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดีกว่า
วิธีรักษากระมีอะไรบ้าง
วิธีรักษากระที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธี ทั้งวิธีที่ ได้แก่
- ใช้ครีมรักษากระ ควรเลือกผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น เรตินอยด์ ไฮโดรควิโนน และกรดไกลโคลิก
- รักษาด้วยเลเซอร์ของโปรแกรม Pico laser เป็นวิธีการรักษากระที่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในครั้งแรก และจะเห็นชัดเจนเมื่อทำครบคอร์สที่แพทย์วางแผนการรักษา เพราะสามารถลดขนาดเม็ดสีของกระได้ และยังไม่ทำให้ผิวหน้าบางลง โดยจะแนะนำให้เป็น picosure laser เพราะมีความยาวคลื่น 755 nm เหมาะกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีมากที่สุด เช่น กระ ฝ้า และจุดด่างดำ
- ทำทรีทเมนต์ วิธีนี้จะเป็นการผลักวิตามินบำรุงในกลุ่มไวท์เทนนิ่งหรือใช้ตัวยาที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เพื่อลดการสร้างเม็ดสีลง
เลเซอร์ช่วยรักษากระได้อย่างไร
โปรแกรม Pico laser เป็นเทคโนโลยีที่จะปล่อยพลังงานสูงไปยังชั้นผิวหนังด้วยความเร็วระดับ 1 ล้านล้านต่อวินาที ทำให้เม็ดสีที่ทำงานผิดปกติแตกกระจายตัวออก แล้วร่างกายก็จะกำจัดเม็ดสีเหล่านั้นออกไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ โดยไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นอื่นๆ กระดูจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลเซอร์ สามารถรักษากระได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะ กระลึกหรือกระตื้น
นอกจากจะช่วยรักษากระแล้ว โปรแกรม Pico laser ยังมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใส และช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น
- ลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเต่งตึงและรูขุมขนกระชับขึ้น
- รักษาฝ้าและจุดด่างดำ
- รักษาปาน
- ลบรอยสัก
- รักษาหลุมสิว
- รักษารอยแดงและรอยดำ
อ่านเพิ่มเติม : กระลึกคืออะไร ‘เลเซอร์กระลึก’ ช่วยได้จริงไหม? ราคาเท่าไหร่
วิธีป้องกันการเกิดกระ
แม้ว่ากระจะสามารถรักษาให้หายได้ แต่อย่างไรก็ตาม กระก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก ทั้งกระลึกและกระตื้น หากเราไม่รู้จักดูแลและป้องกันผิวของตัวเองของตัวเอง วิธีป้องกันกระมาเป็นซ้ำอย่างง่ายๆ มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงแสงแดด หากต้องออกแดด ให้สวมหมวกหรือกางร่ม
- ทาครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB รวมถึงมีค่า SPF 50+ ขึ้นไป
- เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ทาครีมกันแดดทุก 2 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสีใต้ชั้นผิว
กระเป็นปัญหาที่ใครๆ ก็สามารถพบเจอได้ หากเราไม่รู้จักป้องกันผิวตัวเองจากแสงแดด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนเอเชียมักพบว่าเป็นกระลึกกันมาก อย่างไรก็ตาม กระสามารถรักษาให้หายได้ด้วยหลากหลายวิธี ซึ่งวิธีการรักษาด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนหลังทำ
