ปัจจุบันมีผู้นิยมฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก หรือปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ซึ่งสารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยและผ่าน อย. ในไทย มีเพียงชนิด Hyaluronic acid filler (HA) เท่านั้น แต่เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่ร่างกายย่อยสลายได้ คงอยู่เพียงชั่วคราว ส่งผลให้หลายคนสงสัยกับอายุการใช้งานว่า ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
สารบัญ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน โดยทั่วไปฟิลเลอร์จากไฮยาลูโรนิค แอซิด (HA) จะค่อยๆ สลายไปเอง ภายใน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณของ HA ในฟิลเลอร์ และเทคโนโลยีการผลิตของแต่ละแบรนด์ ที่ส่งผลต่อคุณสมบัติ ทั้งความแข็ง ความยืดหยุ่น การกระจายตัว ความสามารถในการอุ้มน้ำ ไปถึงจำนวนการเชื่อมพันธะและขนาดของเม็ดฟิลเลอร์ เหล่านี้ทำให้แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีระยะเวลาคงอยู่ไม่เท่ากัน
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล โดยฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน มีปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการคงอยู่ ต่อไปนี้
1. ยี่ห้อและชนิดของฟิลเลอร์
แต่ละแบรนด์ฟิลเลอร์ล้วนมีเทคโนโลยีเฉพาะในการผลิต ทำให้คุณสมบัติ คุณภาพ และความคงทนต่างกัน ซึ่งองค์ประกอบของฟิลเลอร์ก็มีผลต่ออายุการใช้งานเช่นกัน โดยบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของสาร cross-linking agent ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดอัตราการสลายตัวของโมเลกุล HA ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ความเข้มข้นของ HA ในฟิลเลอร์ก็มีผล เพราะหาก HA มีความเข้มข้นสูง ก็จะทำให้มีความคงทนมากขึ้น รวมถึงความหนืดหรือความเหลวของเนื้อฟิลเลอร์ก็ส่งผลต่อการกระจายตัวและคงอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของโมเลกุล HA ด้วย
Juvederm
Juvederm ฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเด่น 2 แบบคือ Hylacross กระบวนการผลิตแบบ BDDE cross-linking ทำให้โมเลกุล HA มีพันธะเชื่อมโยงกันแน่นขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและอายุการใช้งานของฟิลเลอร์
ส่วนเทคโนโลยี Vycross เป็นการปรับโครงสร้างโมเลกุล HA ให้มีน้ำหนักโมเลกุลต่างกัน ได้เป็นเนื้อเจลที่นุ่ม และกระจายตัวได้ดีแบบธรรมชาติ กลืนไปกับเนื้อเยื่อผิว ผลลัพธ์ดูอ่อนโยน ไม่เป็นก้อน
Juvederm มีหลายรุ่น ทั้ง Voluma, Volift และ Volbella ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในแต่ละตำแหน่งต่างกัน พร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย อย่างความแข็ง ความยืดหยุ่น ขนาดอนุภาค การกระจายตัว และความสามารถในการอุ้มน้ำ สามารถอยู่ได้นาน 12-24 เดือนที่คลินิก Amarante เราเลือกใช้ Juvederm เพราะเชื่อในเทคโนโลยีชั้นนำกับกระบวนการผลิตคุณภาพสูงของฟิลเลอร์แบรนด์นี้ ซึ่งได้รับการรองว่าปลอดภัยต่อผู้ใช้ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการได้ครอบคลุม ทั้งด้านการเติมเต็มริ้วรอย หรือเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า
Restylane
Restylane ฟิลเลอร์จากสวีเดน ที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี NASHA เป็นการนำ HA ที่ย่อยสลายยากมาผสานเข้ากับเจลบริสุทธิ์ ทำให้มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6-18 เดือน นานกว่าฟิลเลอร์แบบเดิมๆ รุ่นที่นิยมคือ Restylane Perlane และ Restylane Lyft ซึ่งมีความหนืดและเหนียวกว่า อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
สำหรับ Restylane Vital Light รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มริ้วรอยตื้นๆ บริเวณรอบดวงตา ร่องแก้ม ริมฝีปาก จะมีคุณสมบัติที่เบาบาง มีความเหลวเล็กน้อย กระจายตัวได้ดี ผสานกลืนกับผิวได้อย่างธรรมชาติ ช่วยผิวให้ดูเด้ง อิ่มฟู และอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด
แต่เพราะมีความหนืดน้อย และขนาดอนุภาคเล็ก Restylane Vital Light จึงอยู่ได้ไม่นานเท่ารุ่นอื่น ประมาณ 6-12 เดือน
Teoxane
Teoxane เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน ที่มีเทคโนโลยี RHA (Resilient Hyaluronic Acid) พัฒนาโครงสร้างของโมเลกุล HA ให้มีคุณสมบัติคล้ายกับ HA ที่ผลิตได้เองตามธรรมชาติของผิวเรา
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น พร้อมเติมเต็มริ้วรอยได้แบบเป็นธรรมชาติ เนื้อฟิลเลอร์ดูกลมกลืนไม่เป็นก้อน สามารถเคลื่อนไหวไปกับสีหน้าของเราได้ดี และคงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ทั้งรุ่น RHA 2, RHA 3 และ Teoxane Ultra Deep
Belotero
Belotero แบรนด์ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) เป็นเทคนิคการผสมผสาน HA ที่มีความหนาแน่นต่างกัน เข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียว ทำให้ได้เนื้อเจลที่ยืดหยุ่น คงรูป เกาะติดกับเนื้อเยื่อได้ดี
สามารถคงอยู่ภายใต้ผิวหนังได้นานโดยไม่แตกกระจาย เป็นก้อน หรือเป็นผลเสีย และยังมีฟิลเลอร์ความเข้มข้นต่างๆ ตั้งแต่รุ่น Soft ที่อ่อนนุ่ม ความคงทนน้อย เหมาะสำหรับผิวบอบบาง ไปถึงรุ่น Intense และ Volume ที่แน่นหนืดกว่า เพิ่มปริมาตรผิวได้มากกว่า อยู่ได้นานถึง 18 เดือน
Definisse
Definisse ฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี ที่พัฒนาจากเทคโนโลยี XTR (eXcellent Three-dimensional Reticulation) เป็นการเชื่อมโยงโมเลกุลของ HA ให้เป็นร่างแหที่แข็งแรง ยืดหยุ่นในระนาบ 3 มิติ คล้ายกับคอลลาเจนตามธรรมชาติ
สามารถยกกระชับและเสริมโครงสร้างผิวได้ดี มีความคงทนนาน โดยรุ่นที่มีปริมาณ HA สูง เช่น Definisse Core จะอยู่ได้ถึง 18 เดือน ส่วน Definisse Restore และ Definisse Touch ซึ่งออกแบบมาสำหรับเติมเต็มริ้วรอยบนผิวหรือใช้ในผู้ที่มีผิวบาง จึงมีความอ่อนนุ่มและคงอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
2. ตำแหน่งที่ฉีด
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์ อีกปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ ทั่วไปบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมาก จะทำให้ฟิลเลอร์ถูกย่อยสลายได้ง่ายและเร็วกว่าปกติ เช่น บริเวณปาก แก้ม เพราะมีการขยับอยู่ตลอดเวลาในแต่ละวัน โดยเฉพาะตอนพูดหรือรับประทานอาหาร ต่างจากบริเวณหน้าผาก ขมับ เหนือคิ้ว หรือส่วนอื่น ที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมาก ฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้นานขึ้น
ชั้นผิวที่ฉีดก็มีผลต่อระยะเวลาคงอยู่ด้วย ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวตื้นๆ จะอยู่ได้นานกว่าการฉีดลงไปลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพราะร่างกายมีความสามารถในการสลายสารแปลกปลอมหรือสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อเยื่อของตัวเอง โดยเฉพาะยิ่งบริเวณชั้นไขมันที่มีเส้นเลือดและเส้นน้ำเหลืองมาหล่อเลี้ยงอยู่มาก
ทำให้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวตื้นๆ เพื่อเติมเต็มริ้วรอยหรือร่องลึก จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้ยาวนานกว่า
3. ระดับการย่อยสลายของร่างกายแต่ละบุคคล
เพราะร่างกายของแต่ละคนมีความสามารถในการย่อยสลายฟิลเลอร์แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเอนไซม์ ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งเป็นตัวทำลายพันธะของ HA ที่เติมเข้าไป ทำให้ฟิลเลอร์ค่อยๆ ถูกย่อยสลายเป็นโมเลกุลเล็กลง จนกระทั่งถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและกำจัดออกไปในที่สุด
ซึ่งปริมาณเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสนั้น มีความต่างกันในแต่ละคน บางคนอาจมีมากกว่า ก็จะย่อยสลายฟิลเลอร์ได้เร็วกว่า ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นาน ขณะที่บางคนอาจมีปริมาณเอนไซม์ดังกล่าวน้อย ส่งผลให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานกว่าปกติ
นอกจากระดับการย่อยสลาย อายุก็ส่งผลต่อการทำงานของเอนไซม์เช่นกัน เพราะในวัยที่มากขึ้น กระบวนการสร้างและสลาย HA ตามธรรมชาติในผิวจะลดลงตามไปด้วย จึงพบว่าในผู้ที่มีอายุมากมักมีอัตราการย่อยสลายฟิลเลอร์ช้า ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานกว่าในกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน อีกปัจจัยที่มีผลคือ ภาวะสุขภาพ โรคประจำตัว และการรับประทานยา อาหารเสริม หรือวิตามินบางอย่างเป็นประจำ ที่อาจไปกระตุ้นหรือยับยั้งการทำงานของระบบย่อยสลายฟิลเลอร์ได้ทางอ้อม ทำให้ส่งผลต่อระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ภายใต้ผิวไม่เท่ากัน ในแต่ละบุคคล
4. ความร้อน
การสัมผัสกับความร้อน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ห้องอบซาวน่า อ่างน้ำร้อน ไปถึงการอาบน้ำด้วยอุณหภูมิสูงเกินไป ล้วนส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วกว่าปกติ เพราะความร้อนมีผลไปเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึมในเซลล์ผิว รวมถึงทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น มีผลไปเร่งกระบวนการย่อยสลายฟิลเลอร์ให้เร็วขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งรังสี UVA และ UVB จากแสงแดด ก็มีผลกระตุ้นให้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสทำงานมากขึ้น ไปย่อยสลายทั้ง HA ในฟิลเลอร์และ HA ตามธรรมชาติที่อยู่ในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพ แก่เร็วกว่าปกติ และทำให้อายุการใช้งานของฟิลเลอร์สั้นลง
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน สำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์ใหม่ๆ คือพยายามเลี่ยงการอาบน้ำร้อน ห้องอบซาวน่า หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องโดนแดดจัดๆ เป็นอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อกันไม่ให้ฟิลเลอร์ถูกสลายหมดเร็วจนเกินไป และควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกแดด เพื่อปกป้องผิวและลดผลกระทบจากรังสี UV ให้มากที่สุด เป็นการช่วยยืดอายุการคงอยู่ของฟิลเลอร์ได้อีกทางหนึ่ง
วิธีช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
นอกจากปัจจัยด้านชนิดของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลแล้ว ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น ทั้งในส่วนเทคนิคการฉีดโดยแพทย์ และการดูแลตัวเองที่ถูกต้องหลังฉีดฟิลเลอร์
เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ ที่ส่งผลต่อระยะเวลาสลายตัว
การฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องเหมาะสม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวได้ดี อยู่ในชั้นผิวที่เหมาะสม ไม่เป็นก้อน ไม่ย้วย ไม่ย้ายหรือไหลไปมา ส่งผลให้อายุการใช้งานของฟิลเลอร์ยาวนานขึ้น
เพราะการฉีดเข้าชั้นผิวที่ลึกเกินไป จะทำให้ฟิลเลอร์ถูกย่อยสลายไปได้เร็ว หรือแม้ฉีดเข้าชั้นผิวที่ตื้นเกินไปก็อาจมีผลทำให้เกิดเป็นตุ่มนูน คล้ำ ดูไม่เป็นธรรมชาติ ต้องมีการแก้ไขซ้ำอีก
นอกจากการเลือกตำแหน่งฉีดแล้ว เทคนิคการกระจายฟิลเลอร์ให้ทั่วก็มีความสำคัญ ซึ่งหากใช้เทคนิคแบบ Microdroplet ที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นหยดๆ เล็กๆ กระจายให้ทั่ว จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเนียนเรียบ เป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการฉีดรวมเป็นก้อนใหญ่ หรือฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวโดยตรง
สำคัญคือ แพทย์ที่ดีจะต้องคำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ในแต่ละครั้งให้พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูมีมิติ สวยงาม ใบหน้าไม่อวบอูมจนผิดรูป และช่วยไม่ให้ต้องฉีดซ้ำบ่อยเกินจำเป็น
การดูแลตัวเองหลังฉีด เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน แม้ฟิลเลอร์สามารถถูกย่อยสลายไปเองได้ แต่การดูแลตัวเองที่ดีภายหลังการฉีด ก็มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานยิ่งขึ้น ลดโอกาสที่ต้องกลับไปแก้ไขหรือเติมเต็มซ้ำบ่อย โดยมีข้อแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
- 2-3 วันแรกหลังฉีด พยายามเลี่ยงการสัมผัส ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด ไม่ควรใช้นิ้วกดหรือเกาแรงๆ เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนย้ายหรือกระจายตัวไปอยู่บริเวณที่ไม่ต้องการ
- ไม่ควรนอนคว่ำหรือตะแคงหน้าไปในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป แนะนำให้นอนหงายราบเป็นหลัก เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในรูปทรงและตำแหน่งที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
- เลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือกิจกรรมที่มีการกระแทกบริเวณใบหน้า ช่วง 3-7 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ย้ายตำแหน่ง เลือดคั่ง หรือเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ได้
- งดการแต่งหน้า ทาสกินแคร์ ครีมบำรุง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ บนใบหน้า ในวันแรกที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคืองผิว
- พยายามเลี่ยงการเข้าห้องซาวน่า อบไอน้ำ แช่น้ำร้อน หรือสระว่ายน้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนเร่งการสลายตัวของฟิลเลอร์
- ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และเลี่ยงการตากแดดเป็นเวลานานๆ เพื่อไม่ให้รังสี UV ไปกระตุ้นการย่อยสลายฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปได้ดี อยู่ได้นาน และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมความเครียด เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่มากระตุ้นการสลายตัวของฟิลเลอร์และคอลลาเจนตามธรรมชาติในผิว
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงผิว เช่น วิตามิน บี, ซี และอี, กรดไขมันโอเมกา 3, สังกะสี และซิลิกา เพื่อเสริมการคงอยู่ ชะลอการเสื่อมสลาย ให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำบ่อยๆ ได้หรือไม่
ทั่วไปสามารถฉีดเพิ่มเติมได้ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวไปแล้ว แต่ไม่ควรฉีดซ้ำถี่เกินไป ควรเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ เน้นว่าควรใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น และต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดเพิ่ม
กรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่พอใจ เช่น ฉีดบริเวณใต้ตาแล้วเกิดเป็นก้อนนูนเวลายิ้ม แนะนำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมออกไปก่อน แล้วค่อยฉีดใหม่
หรือหากเติมที่แก้มตอบมาแล้วยังไม่เต็มที่ ก็สามารถฉีดเพิ่มเติมได้ โดยไม่จำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์เดิมออก เพราะจะพิจารณาฉีดสลายก็ต่อเมื่อ ฟิลเลอร์เป็นก้อน ผิวไม่เรียบเนียน หรือไหลไปอยู่ผิดตำแหน่ง ซึ่งการฉีดสลายฟิลเลอร์จะทำได้ต่อเมื่อเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่ร่างกายสลายได้เอง และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น
สรุป
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ทั่วฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้ตั้งแต่ 6 ถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด การย่อยสลายตามธรรมชาติของแต่ละคน ไปถึงการดูแลตัวเองให้ถูกวิธีหลังฉีด
ซึ่งทั้งประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ ก็มีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน โดยแพทย์จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับรูปแบบปัญหาของผู้รับบริการ และฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้องด้วยเทคนิคการฉีดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการและคงคุณภาพของฟิลเลอร์ไว้นานที่สุด
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้เลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในคลินิกมาตรฐานที่ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และควรปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ความงามอยู่ได้ยาวนานขึ้น
อ้างอิง
- Guo, Jiahong, Wei Fang, and Feifei Wang. “Injectable fillers: current status, physicochemical properties, function mechanism, and perspectives.” RSC advances 13.34 (2023): 23841-23858.
- Master, Mobin. “Hyaluronic acid filler longevity and localization: magnetic resonance imaging evidence.” Plastic and Reconstructive Surgery 147.1 (2021): 50e-53e.