ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง อันตรายไหม อยู่ได้นานแค่ไหน ท่านใดที่มีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ในทำนองนี้อยู่ ทาง Amarante Clinic โดยคุณหมอต้น นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต อาจารย์แพทย์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ ก็ได้รวบรวมทุกคำตอบมาให้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว พร้อมด้วยรูปรีวิวก่อนและหลังฉีดจากเคสจริง
สารบัญ โปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มผิวที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เช่น กรดไฮยารูลอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) โดยจะฉีดเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อลดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยร่องลึก ช่วยให้ผิวดูเนียนขึ้น อิ่มขึ้น ช่วยเสริมความมั่นใจและช่วยให้ดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์มีกี่ชนิด
หลักๆ แล้ว ฟิลเลอร์จะแบ่งตามสารที่ใช้ได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่
- กรดไฮยารูลอนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในหลายๆ อวัยวะ โดยเฉพาะผิวหนัง ดวงตา และข้อกระดูก แต่ร่างกายของเราจะผลิตได้ลดลงตามอายุ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเติมเต็มผิวให้ดูอิ่ม มีความชุ่มชื้น มีริ้วรอยลดลง ทั้งยังมีข้อดีคือเห็นผลได้ทันที ฉีดได้กับหลายจุด และมีความปลอดภัยสูง กรดไฮยารูลอนิกจึงเป็นชนิดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยการฉีดแต่ละครั้งจะอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี
- แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA) เป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในกระดูก เมื่อฉีดแล้วจะช่วยเติมเต็มผิว ทำให้ริ้วรอยดูลดลง และยังมีฤทธิ์ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ได้นานไม่เกิน 2 ปี
- กรดพอลีแอลแลคติค (Poly-L-Lactic Acid หรือ PLLA) เป็นฟิลเลอร์ชนิดสารสังเคราะห์ มีกลไกออกฤทธิ์หลักๆ คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวดูกระชับและอิ่มฟูขึ้น แต่จะใช้ระยะเวลาในการเห็นผลค่อนข้างนาน (ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลชัดเจนภายใน 2-3 เดือน) ฟิลเลอร์ชนิดนี้มักให้ผลลัพธ์คงอยู่นานไม่เกิน 2 ปี
- โพลิเมทิลเมทาไครเลต (Polymethylmethacrylate หรือ PMMA) เป็นสารสังเคราะห์อนุภาคทรงกลมขนาดเล็ก มักใช้ผสมผสานกับคอลลาเจนในรูปแบบเจล เมื่อฉีดแล้วจะช่วยลดริ้วรอยผ่าน 2 กลไก ได้แก่ ช่วยเติมเต็มผิวในระยะสั้นด้วยคอลลาเจนในรูปแบบเจล และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวด้วยสารสังเคราะห์ ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ยาวนาน โดยอาจนานถึง 5 ปี หรือมากกว่านั้น
ทั้งนี้ เนื้อหาในบทความนี้จะเน้นไปที่กรดไฮยารูลอนิกเป็นหลัก เพราะเป็นชนิดฟิลเลอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
หลักการทำงานของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยารูลอนิกเมื่อถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิวแล้ว ก็จะไปจับกับโมเลกุลน้ำและอิ่มฟูขึ้น ส่งผลให้รอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยร่องลึกของผิวบริเวณนั้นลดลง ทั้งยังช่วยให้ผิวดูอิ่มและชุ่มชื้นมากขึ้น
ส่วนฟิลเลอร์ชนิดอื่นนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากกว่าการเติมเต็มผิวโดยตรง ซึ่งแม้จะมีข้อดีในแง่ของการให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และอาจช่วยแก้ปัญหาของผิวในเชิงโครงสร้างได้ดีกว่า แต่ก็จะพ่วงมาด้วยข้อเสียต่างๆ เช่น ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลเต็มที่ มีความเสี่ยงสูงกว่า (เนื่องจากเป็นสารสังเคราะห์หรือเป็นสารธรรมชาติที่ปกติไม่ได้พบในชั้นผิว) และแก้ไขได้ยากกว่า (ถ้าเป็นกรดไฮยารูลอนิก จะสามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase ในกรณีที่ต้องการแก้)
ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยในเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้
- แก้รอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยร่องลึก อายุที่มากขึ้น แสงแดด ฝุ่นมลภาวะ บุหรี่ เหล้า อาหารน้ำตาลสูง ความเครียด การนอนน้อย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเอื้อให้เกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้าและผิวบริเวณอื่น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ก็จะช่วยเข้าไปเติมเต็มชั้นผิวให้อิ่มฟู ชุ่มชื้น มีริ้วรอยลดลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปรับรูปหน้าในจุดต่างๆ การฉีดฟิลเลอร์ยังสามารถทำเพื่อปรับรูปหน้าในจุดต่างๆ ได้ด้วย แม้จะปรับไม่ได้เท่าการผ่าตัดเสริมซิลิโคน แต่ก็เจ็บตัวน้อยกว่าและสามารถเห็นผลได้ทันที ตัวอย่างเช่น การฉีดปากกระจับ ฉีดหน้าผากให้โหนกนูน ฉีดแก้มตอบหรือขมับตอบให้เต็มขึ้น ฉีดคางและขากรรไกรให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น เป็นต้น
- เติมหลุมสิว หลุมสิวบางชนิดจะสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเมื่อฉีดแล้วก็จะทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- เสริมมงคงให้ใบหน้า สำหรับผู้ที่เชื่อในเรื่องความเป็นมงคล การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าก็สามารถทำเพื่อหวังผลในจุดนี้ได้เช่นกัน เช่น การฉีดหน้าผากให้โหนกนูน เพื่อให้มีวาสนาดี หน้าที่การงานรุ่งเรือง มีดวงรับทรัพย์
ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง
ตัวอย่างตำแหน่งฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมก็ได้แก่
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ลดริ้วรอยยับย่น แก้ปัญหาหน้าผากแบน แคบ ยุบ บุ๋ม ปรับหน้าผากให้โหนกนูน โค้งมน ได้รูปมากขึ้น
- ฟิลเลอร์ขมับ แก้ปัญหาหางคิ้วตก หางตาตก ขมับตอบ ขมับลึก ขมับยุบ ช่วยเติมขมับให้ดูฟูสวย ช่วยอำพรางโหนกแก้มให้เด่นน้อยลง
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา ลดรอยตีนกา แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ เบ้าตาลึก ตาโหล ช่วยเติมใต้ตาให้ดูอิ่ม กระชับ สดใสขึ้น
- ฟิลเลอร์จมูก แก้ปัญหาจมูกแบน ไม่มีดั้ง ช่วยปรับดั้งจมูกให้โด่งสวยได้รูปมากขึ้น
- ฟิลเลอร์แก้ม ลดริ้วรอยร่องลึกบริเวณร่องแก้มและร่องน้ำหมาก แก้ปัญหาแก้มตอบ แบน ยุบ หย่อนคล้อย ช่วยเติมแก้มส้มให้อิ่มสวย ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาปากเบี้ยว ปากไม่เท่ากัน มุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้หน้าดูบูดบึ้ง ปรับรูปปากให้อิ่มสวย เป็นกระจับ ลดปัญหาปากแห้ง ปากลอก
- ฟิลเลอร์ขากรรไกร แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ใบหน้าไม่สมมาตร ปรับกรอบหน้าและสันกรามให้คมชัดขึ้น
- ฟิลเลอร์คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางเบี้ยว ช่วยปรับคางให้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
- ฟิลเลอร์หลุมสิว ปรับหลุมสิวให้ตื้นลง ผิวหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น
- ฟิลเลอร์มือ แก้ปัญหามือเหี่ยวย่น มีริ้วรอยชัด เส้นเลือดปูด มือแห้งกร้าน ปรับหลังมือให้สวยละมุนขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
หากตัดสินใจว่าจะฉีดฟิลเลอร์แล้ว การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งก็มีข้อแนะนำดังนี้
- งดยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแน็ก นาพร็อกเซน ไพร็อกซิแคม เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะยากลุ่มนี้จะทำให้เสี่ยงเลือดออกมากขึ้น
- งดอาหารเสริมที่มีฤทธิ์รบกวนการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียมสกัด โสมสกัด ใบแปะก๊วยสกัด น้ำมันพริมโรส น้ำมันปลา วิตามินอี และ St. John’s Wort เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการรบกวนชั้นผิวบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ เช่น แว็กซ์ขน ดึงขน โกนขน ขัดผิว หรือใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 3 วันก่อนฉีด เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดบาดแผลง่าย
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ค็อกเทล ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ช้ำง่ายขึ้น
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกาย อบไอน้ำ ซาวน่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- แจ้งข้อมูลแพทย์ให้ถี่ถ้วนแต่เนิ่นๆ ซึ่งได้แก่ ประวัติการทำหัตถการที่ผ่านมา ประวัติการแพ้ โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ใช้ทั้งหมด เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินและให้คำแนะนำในการเตรียมตัวได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ก็จะมีข้อห้ามและข้อแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีดังต่อไปนี้
- นอนนิ่งๆ หลังฉีดเสร็จ ประมาณ 5-10 นาที หรือตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ฟิลเลอร์ได้มีช่วงกระจายตัวอย่างเหมาะสม
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
- ดูแลร่างกายให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ทั้งจากอาหารและน้ำดื่ม เพราะฟิลเลอร์จะอาศัยการจับกับโมเลกุลน้ำ เพื่อให้อิ่มฟูได้รูปและสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน
- งดแต่งหน้า ภายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
- เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะด้วยมือหรือสิ่งอื่น ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- เลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ อย่างน้อย 2 วันหลังฉีด เพราะจะทำให้ช้ำง่ายขึ้น และอาจทำให้ขาดสติในการควบคุมดูแลตัวเอง
- งดใช้ยาหรือสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว ภายในช่วง 3 วันหลังฉีด เพราะอาจทำให้ผิวคัน แสบ หรือระคายเคือง
- เลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อน เช่น โดนแดด น้ำอุ่น น้ำร้อน ไดร์เป่าผม ซาวน่า ไอจากการทำอาหาร ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด
- เลี่ยงการแว็กซ์ขนหรือทำหัตถการบริเวณที่ฉีด ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด หากมีความจำเป็นจริงๆ ให้ปรึกษาแพทย์อย่างถี่ถ้วนเสียก่อน
- อาจประคบเย็นเมื่อมีอาการบวม โดยใช้ Cool Pack หรือถุงน้ำแข็งห่อผ้า
อ่านเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไร ให้สวยดูดี ปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเริ่มเห็นผลได้ทันที และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ แนะนำให้ดื่มน้ำให้เพียงพอและพยายามดูแลตัวเองให้ดี เพื่อให้ฟิลเลอร์สามารถอิ่มฟูภายในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างเต็มที่
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ กี่วันเห็นผล ดูแลยังไงให้หายบวมเร็ว
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด เทคนิคการฉีด ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีด สภาพร่างกายของแต่ละคน เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน เผยวิธีดูแลให้อยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปแล้วจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยดังนี้
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. การใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่มักจะผลิตจากสารแปลกปลอมที่มีราคาถูก ก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ฟิลเลอร์ย้อย บริเวณที่ฉีดเป็นคลื่น ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เกิดเนื้อตาย เป็นต้น ซึ่งในกรณีที่ยังไม่ได้ร้ายแรงมาก ก็อาจแก้ไขได้ด้วยการขูดฟิลเลอร์ปลอมออก
- แพทย์ต้องมีความชำนาญ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในแทบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินปัญหา การให้ข้อแนะนำการเตรียมตัว การเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ การฉีดด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ตลอดจนการแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดและการติดตามผล ในกรณีที่แพทย์ขาดความชำนาญ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ได้ เช่น ให้คำแนะนำที่ผิดจนผู้รับบริการขาดการเตรียมตัวที่ดี ฉีดผิดชั้นผิดตำแหน่งจนเกิดเป็นก้อนบวม ฉีดโดนเส้นเลือดทำให้เกิดการอุดตัน เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
โดยปกติแล้ว ฟิลเลอร์จะคิดราคาเป็นต่อ 1 CC หรือ 1 หลอด หากผู้รับบริการมีปัญหาที่ต้องใช้ฟิลเลอร์เยอะ ราคาก็จะต้องสูงขึ้นตาม โดยจะคิดได้ด้วยการคูณราคาต่อหน่วยเข้าไป เช่น หากราคาฟิลเลอร์อยู่ที่ 15,000 บาทต่อ 1 CC ในกรณีที่ต้องฉีด 3 CC ก็จะคิดเป็นราคาทั้งสิ้น 45,000 บาท
ทั้งนี้ ราคาของการฉีดฟิลเลอร์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ราคาต้นทุนฟิลเลอร์ ซึ่งแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น ก็จะมีคุณภาพและคุณสมบัติที่ต่างกัน ส่งผลให้มีราคาต่างกันตามไปด้วย
- ต้นทุนสถานพยาบาลและการดำเนินงาน ทั้งสถานที่ที่ต้องได้มาตรฐาน พนักงานที่มีความชำนาญและเป็นมืออาชีพ ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทันสมัยและต้องอยู่ภายใต้หลักอนามัยและการบำรุงรักษาที่เหมาะสม
- ค่าแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณา เพราะจะเป็นผู้กำหนดตั้งแต่แนวทางหัตถการ ฟิลเลอร์ที่ควรใช้ จนถึงการวิเคราะห์และการเลือกใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสมกับแต่ละเคส
การเลือกฉีดฟิลเลอร์ไม่ควรเลือกเฉพาะจากราคาถูก เพราะมีโอกาสสูงที่จะพบปัญหาต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ปลอม แพทย์เถื่อน แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ ซึ่งในกรณีที่เกิดปัญหากับใบหน้า นอกจากจะต้องเสียเงินเพื่อแก้ไขแล้ว ก็ยังอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจและเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ กับทุกเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละบริเวณใช้กี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ลักษณะและความหนักเบาของปัญหา ชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ ตลอดจนความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งคร่าวๆ แล้วก็จะสามารถประมาณการได้ดังนี้ (ปริมาณที่ใช้จริงอาจต่างจากนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละเคส)
- หน้าผาก 1-3 CC
- ร่องขมวดคิ้ว 1 CC
- จมูก 1 CC
- ใต้ตา 1-2 CC
- หน้าแก้ม 1-2 CC
- ขากรรไกร 2-4 CC
- ขมับ 1-3 CC
- แก้มตอบ 2-4 CC
- คาง 1-2 CC
- มุมปาก 1-3 CC
- ปาก 1-2 CC
- ยกคิ้ว 1 CC
- ร่องแก้ม 1-2 CC
เลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
ตัวอย่างยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากลก็อย่างเช่น
- Juvederm เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan มีรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Voluma, Volift, Vobella, Volite และ Volux
- Restylane เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดน ผลิตโดยบริษัท Galderma มีรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Vital, Vital Light, Lyft, Defyne, Refyne และ Volyme
หากถามว่าฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดคือฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน ก็คงจะตอบได้ว่าต้องขึ้นอยู่กับแต่ละเคส เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีความเหมาะสมต่อลักษณะปัญหาและตำแหน่งฉีดที่ต่างกัน ทางที่ดี ผู้รับบริการก็ควรตัดสินใจร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลังจากที่ได้รับการประเมินอย่างละเอียดแล้ว
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก็จะประกอบไปด้วย
- คลินิกได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย ไม่ใช่คลินิกเถื่อนหรือเป็นคลินิกที่มีลักษณะการดำเนินงานไม่ตรงกับที่จดแจ้ง ซึ่งจะทำให้เสี่ยงเกิดอันตรายต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
- ใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน การใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีสภาพดีจะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ในทางตรงกันข้าม การใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่เสื่อมสภาพจะทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไม่เรียบ ฟิลเลอร์ไหลย้อย อักเสบ ติดเชื้อ เกิดเนื้อตาย เป็นต้น
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญ เพราะความปลอดภัยและผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ จะถูกกำหนดโดยความรู้ความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการเป็นหลัก
- ราคาสมเหตุสมผล คลินิกฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีราคาที่สมเหตุสมผล ในกรณีที่มีราคาถูกจนเกินไป ก็จะมีโอกาสสูงที่จะใช้ฟิลเลอร์ปลอม ใช้แพทย์ที่ขาดประสบการณ์ หรือใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
- มีรีวิวฉีดฟิลเลอร์ รีวิวที่น่าพึงพอใจจากผู้รับบริการจะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ในด้านนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
- มีความจริงใจต่อผู้รับบริการ โดยอาจสังเกตได้จากการให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ไม่โฆษณาโอ้อวดเกินจริง ไม่ยัดเยียดขายบริการที่ไม่จำเป็น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic
Amarante Clinic ภายใต้การดูแลของคุณหมอต้น นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ผู้ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่ง AMI Trainer ประจำประเทศไทย ทางคลินิกใส่ใจทุกรายละเอียดเริ่มตั้งแต่แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน การให้บริการที่จริงใจ รูปรีวิวไม่บิดเบือนผลการรักษา ตลอดจนการแจ้งราคาก่อนรับบริการอย่างตรงไปตรงมา จนได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการเป็นจำนวนมาก ทำให้คลินิกมียอดการใช้ฟิลเลอร์ติดอันดับท็อปของประเทศไทยทุกปี
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์แบบองค์รวม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ฟิลเลอร์
นอกจากประเด็นข้อมูลทั่วไป อย่างเช่น ฟิลเลอร์คืออะไร ช่วยอะไร และฉีดส่วนไหนได้บ้างแล้ว ทาง Amarante Clinic ก็ยังได้รวบรวมคำถามที่มักจะได้รับอยู่บ่อยๆ มาให้ชมกัน โดยจะมีดังนี้
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปจะมีการแปะยาชาและประคบน้ำแข็งระหว่างฉีด ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีปัญหาเรื่องรู้สึกเจ็บ แต่หลังจากที่ฉีดแล้ว บางคนก็อาจมีอาการบวม แดง คัน มีรอยช้ำ หรือรู้สึกปวดตึงได้บ้าง ซึ่งก็จะเริ่มดีขึ้นภายใน 2-3 วัน และส่วนมากจะหายเป็นปกติไม่เกิน 2 สัปดาห์
เข็มฉีดฟิลเลอร์มีแบบใดบ้าง
เข็มฉีดฟิลเลอร์จะแบ่งได้หลักๆ เป็น 2 แบบ ได้แก่
- เข็มทู่ มีข้อดีคือทำให้เกิดรอยเปิดเข็มน้อย ช่วยลดโอกาสเกิดรอยเขียวช้ำ โดยจะเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความละเอียด แต่ก็มีข้อเสียคือแพทย์ต้องมีความชำนาญสูง และหากแพทย์ออกแรงเยอะเกินไปก็อาจทำให้เข็มแทงโดนเส้นเลือดได้
- เข็มแหลม มีข้อดีคือแทงง่ายกว่า ใช้สะดวกกว่า โดยจะเหมาะกับบริเวณที่ต้องใช้ความแม่นยำ แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เกิดรูเปิดเข็มหลายรอบ และจะทำให้เสี่ยงเกิดรอยเขียวช้ำง่ายกว่า
ฟิลเลอร์สลายเองได้หมดไหม
ฟิลเลอร์จะสลายเองได้หมดถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ฉีด เทคนิคการฉีด ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีด สภาพร่างกายของแต่ละคน เป็นต้น
การฉีดสลายฟิลเลอร์คืออะไร ทำในกรณีไหน
การฉีดสลายฟิลเลอร์ คือการฉีดเอนไซม์ Hyaluronidase เข้าไปเพื่อให้ฟิลเลอร์สลาย โดยจะทำเมื่อต้องการแก้ไขผลลัพธ์ เช่น กรณีที่ใช้ฟิลเลอร์มากไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ฉีดผิดตำแหน่ง ต้องการแก้ให้เหมือนก่อนฉีด เป็นต้น ทั้งนี้ การฉีดสลายฟิลเลอร์จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับฟิลเลอร์ปลอมได้
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์ รวมทุกข้อควรรู้ [พร้อมรีวิว]
การขูดฟิลเลอร์คืออะไร ทำในกรณีไหน
การขูดฟิลเลอร์ คือการขูดเพื่อนำฟิลเลอร์ปลอมออก สาเหตุที่ต้องขูดก็เพราะว่าฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้ ไม่ว่าจะด้วยการสลายเองหรือฉีดสลาย โดยผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมก็มักจะมาด้วยอาการผิดปกติต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน อักเสบ ติดเชื้อ หรือในกรณีร้ายแรงก็อาจเกิดเนื้อตายหรือเส้นเลือดอุดตัน
ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มผิวที่ฉีดเพื่อหวังผลในการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ส่วนโบท็อกซ์ คือโปรตีนจากแบคทีเรียที่ใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยผ่านการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อเทียบกันแล้ว โบท็อกซ์จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อได้ดีกว่า เช่น ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ส่วนฟิลเลอร์จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากสาเหตุอื่นได้ดีกว่า เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่นทั่วไป และริ้วรอยร่องลึก
ฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมันต่างกันอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อหวังผลในการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ส่วนการฉีดไขมัน คือการฉีดเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ที่ได้มาจากไขมันบริเวณอื่น เพื่อช่วยเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการ จุดต่างที่สำคัญระหว่าง 2 หัตถการนี้ก็คือ การฉีดฟิลเลอร์จะทำได้สะดวกกว่าและเห็นผลได้เร็วกว่า แต่ผลที่ได้จะคงอยู่แค่ชั่วคราว ส่วนการฉีดไขมันจะทำได้ยากกว่าและอาจต้องทำหลายรอบกว่าจะอยู่ตัว แต่เมื่อทำติดแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะคงอยู่ถาวร
อ่านเพิ่มเติม : ฉีดไขมัน กับ ฉีดฟิลเลอร์ ความต่างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ