การสักเป็นการสร้างลวดลายบนผิวแบบถาวร ด้วยการฝังหมึกลงในชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้การลบรอยสักเป็นเรื่องยาก เพราะชั้นหนังแท้อยู่ลึกลงไป ทำให้หมึกหลุดยาก แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำ “ เลเซอร์ลบรอยสัก ” เพราะให้ผลดีและผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีอื่น
บทความนี้ ไปรู้จักการทำ เลเซอร์ลบรอยสัก กัน ว่าคืออะไร? พร้อมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนทำเลเซอร์ เช่น เลเซอร์ลบรอยสักทำกี่ครั้ง? ราคาเท่าไหร่? รวมถึงวิธีการเตรียมตัวและดูแลตัวเอง สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะลบรอยสักด้วยเลเซอร์
เลเซอร์ลบรอยสัก คืออะไร
เลเซอร์ลบรอยสัก คือ พลังงานความถี่สูงที่ยิงไปยังชั้นหนังแท้ (Dermis) พลังงานจะจับกับเม็ดสีและทำให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ จากนั้นระบบภูมิคุ้มกันจะช่วยกำจัดเม็ดสีออก ทำให้รอยสักจางลง เลเซอร์ที่นิยมใช้คือ Q-Switched ทำงานในหน่วยนาโนวินาที (nanosecond) หรือพิโคเลเซอร์ (Pico Laser) ทำงานในหน่วยนาโนวินาทีวินาที (picosecond) เช่นกัน โดยปล่อยพลังงานสูงในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อทำลายเม็ดสีและช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
เลเซอร์ลบรอยสัก กับวิธีลบรอยสักแบบอื่น ๆ
นอกจากการเลเซอร์ลบรอยสัก ยังมีวิธีอื่นที่สามารถกำจัดรอยสักได้เช่นกัน แต่ละวิธีมีความแตกต่างกันดังนี้
ลบรอยสักด้วยน้ำยา
การใช้น้ำยาลบรอยสักเป็นวิธีที่อันตรายและไม่แนะนำ เพราะน้ำยาลบรอยสักประกอบด้วยสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง หากทาลงบนผิวหนัง สารเคมีจะกัดกร่อนเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวแสบร้อนและเกิดแผล อาจเสี่ยงต่อการอักเสบ ติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นนูนที่รักษายาก บางชนิดไม่สามารถลบรอยสักได้ ทำให้น้ำยาลบรอยสักเป็นอันตรายต่อสุขภาพผิว
ศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก
การผ่าตัดลบรอยสักเป็นวิธีที่แพทย์จะผ่าตัดเอาผิวหนังส่วนที่มีรอยสักออก จากนั้นจะเย็บผิวหนังเข้าด้วยกันเพื่อปิดแผล วิธีนี้ใช้กับรอยสักขนาดเล็ก เพราะหากเป็นรอยสักขนาดใหญ่ แพทย์อาจต้องนำผิวหนังจากส่วนอื่นมาปิด ทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ แม้ว่าวิธีนี้จะสามารถลบรอยสักได้ถาวร แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
กรอผิวด้วยเครื่องมือแพทย์
การกรอผิวเป็นวิธีการลบรอยสักที่ใช้เครื่องมือพิเศษในการขัดหรือถูผิวหนังออก เพื่อเอาชั้นผิวที่มีหมึกฝังอยู่ แต่ในปัจจุบันวิธีนี้ไม่นิยม เนื่องจากคนไข้จะรู้สึกเจ็บมากทั้งระหว่างทำและหลังทำ ทั้งยังต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ทุกครั้งที่ทำจะก่อให้เกิดแผล ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจทิ้งรอยแผลถาวรบนผิวหนัง
เลเซอร์กระชับรูขุมขน คืออะไร
ปัจจุบันเครื่องเลเซอร์มีหลายประเภทที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดปัญหารูขุมขนกว้าง โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
เลเซอร์กระชับรูขุมขนมีอะไรบ้าง? เลือกแบบไหนดี
เครื่องเลเซอร์ลบรอยสักที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่
Q-Switched Laser
Q-Switched Laser เป็นเลเซอร์ลบรอยสักที่ปล่อยคลื่นแสงเข้มข้นในช่วงเวลาสั้น ๆ (Nanosecond) เพื่อทำลายเม็ดสีของรอยสัก มีความยาวคลื่น 532 นาโนเมตรสำหรับผิวชั้นตื้น และ 1064 นาโนเมตรสำหรับผิวชั้นลึก สามารถลบรอยสักและรักษาฝ้า กระ ปาน และจุดด่างดำได้ สีเขียวและสีฟ้าอาจลบยากกว่าเนื่องจากดูดซับพลังงานเลเซอร์น้อยกว่าสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีแดง ทำให้ต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น
Picosecond Laser
Picosecond Laser มีประสิทธิภาพสูงกว่า Q-Switched Laser ด้วยการปล่อยพลังงานเร็วถึง 1 ต่อล้านล้านวินาที (Picosecond) ทำให้เม็ดสีแตกละเอียดขึ้นและร่างกายกำจัดออกได้เร็วกว่า ทั้งยังลดความร้อนสะสมในเนื้อเยื่อข้างเคียง ลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง รุ่นที่นิยมคือ PicoSure, Picoway และ Discovery Pico
แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกรับบริการ ทั้งนี้เพราะสภาพผิว และความยากของรอยสัก แต่ละคนแตกต่างกัน
ข้อดีการลบรอยสักด้วยเลเซอร์
- เทคโนโลยีเลเซอร์ในปัจจุบันจะช่วยลดความเจ็บปวดขณะรักษา ไม่ทำให้เกิดแผลลึกหรือรอยแผลหลังการรักษา ช่วยให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
- หลังจากการทำเลเซอร์ลบรอยสัก ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่ต้องหยุดพักฟื้นเป็นเวลานาน
- สามารถลบรอยสักทุกรูปแบบ ทั้งลายเล็กหรือใหญ่ และมีความสามารถในการลบรอยสักที่มีเฉดสีต่าง ๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบกว่าวิธีอื่นที่อาจไม่สามารถจัดการกับเฉดสีเข้มหรืออ่อน ได้
- เทคโนโลยีเลเซอร์มีความแม่นยำสูง สามารถใช้ในบริเวณที่มีผิวบอบบางได้ เช่น ใบหน้า หลังคอ หรือรอบดวงตา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการทำลายผิวในส่วนอื่น
- เลเซอร์จะเจาะเฉพาะเม็ดสีที่ฝังอยู่ในผิวชั้นลึก ไม่ทำลายผิวชั้นบน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นและการติดเชื้อ ทำให้การฟื้นตัวของผิวรวดเร็ว
- หลังการทำเลเซอร์ครั้งแรก รอยสักจะเริ่มจางลง ช่วยให้ผู้ใช้บริการเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
เลเซอร์ลบรอยสัก ต้องทำกี่ครั้งถึงหาย?
เลเซอร์ลบรอยสักสามารถทำให้รอยสักจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ไม่สามารถลบออกได้ทั้งหมดในครั้งเดียว ต้องทำต่อเนื่องประมาณ 5-10 ครั้ง เพราะรอยสักที่อยู่ลึกมาก เลเซอร์อาจเข้าไปทำลายเม็ดสีได้ยาก ต้องใช้พลังงานมากขึ้น การทำแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้ผิวมีเวลาในการฟื้นตัวและกำจัดเม็ดสีที่แตกตัวออกไป ซึ่งจำนวนครั้งที่ต้องทำขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
สีของรอยสัก
รอยสักที่มีสีเดียว โดยเฉพาะสีเข้ม เช่น สีดำ น้ำตาล หรือสีน้ำเงิน มักจะลบได้ง่ายกว่ารอยสักที่มีหลายสี เพราะสีเข้มสามารถดูดซับพลังงานจากเลเซอร์ได้ดีกว่า ทำให้สามารถทำลายเม็ดสีได้ดี แต่รอยสักที่ใช้สีโทนอ่อนหรือสีโทนสว่าง เช่น สีฟ้า สีเหลือง สีชมพู รวมถึงสีอ่อนที่เกิดจากการผสมหมึกสีเข้มกับสีขาว จะลบได้ยากกว่า เพราะสีเหล่านี้ไม่ดูดซับพลังงานจากเลเซอร์
ตำแหน่งของรอยสัก
รอยสักที่อยู่ใกล้หัวใจ เช่น บริเวณลำตัวหรือแขนส่วนบน จะจางลงเร็วกว่า เพราะเป็นบริเวณที่เลือดไหลเวียน โมเลกุลของเม็ดสีที่แตกละเอียดจะถูกพาไปกำจัดได้ง่ายขึ้น ส่วนรอยสักที่อยู่ไกลหัวใจ เช่น มือ นิ้ว ขา เท้า จะใช้เวลานานกว่าในการทำให้จางลง
ความลึกของรอยสัก
ปัจจุบันการสักเพื่อความสวยงาม เช่น สักคิ้ว สักอายไลน์เนอร์ หรือสักปากเป็นที่นิยม เพราะการสักประเภทนี้จะฝังหมึกลงในผิวชั้นตื้น เมื่อถึงเวลาต้องการลบ การทำเลเซอร์ก็จะง่ายและใช้จำนวนครั้งน้อยกว่าการสักลายแบบปกติ
ประสิทธิภาพรุ่นเครื่องเลเซอร์
ชนิดของเครื่องเลเซอร์ลบรอยสักมีผลต่อการรักษา เช่น Picosecond Laser ทำให้เม็ดสีแตกละเอียดกว่า Q-Switched Laser เพราะปล่อยพลังงานเร็วกว่า ทำให้รอยสักจางลงเร็วและลดจำนวนครั้งที่ต้องทำ ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก่อนทำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินรอยสักและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ผลข้างเคียงหลังเลเซอร์ลบรอยสัก
ผลข้างเคียงหลังทำเลเซอร์ลบรอยสักมักเกิดขึ้นน้อย อาจมีรอยแดง ระคายเคือง คัน แสบผิว หรือสะเก็ดเล็ก ๆ ซึ่งเป็นอาการปกติที่หายได้ภายใน 5-7 วัน แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากอาการไม่ดีขึ้น สามารถประคบเย็นและทายาตามแพทย์แนะนำ และหากมีไข้สูง มีหนอง หรือเกิดการบวมรุนแรง ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจและคำแนะนำเพิ่มเติม
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ลบรอยสัก
- งดการขัดผิว สครับผิว รวมถึงการโกนขนและแวกซ์ขนก่อนทำเลเซอร์ลบรอยสักอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิวหนัง และอาจทำให้ผิวบางเกินไป
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
- หากต้องการบำรุงผิวก่อนการทำเลเซอร์ลบรอยสัก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อป้องกันการระคายเคืองในระหว่างการทำเลเซอร์
- หากมีปัญหาผิว เช่น รอยแผล ผิวอักเสบ ผดผื่น ควรรักษาให้หายก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หากเพิ่งทำการสักมา ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวเต็มที่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองหรือเกิดผลข้างเคียงจากเลเซอร์
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจชะลอการฟื้นตัวของผิวและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้
- งดยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs ยาละลายลิ่มเลือด วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการฟกช้ำหลังการรักษา และไม่ทำให้เลือกออกง่าย หากจำเป็นต้องรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
- หากมีโรคประจำตัวหรืออาการแพ้ยาบางชนิด รวมถึงการใช้ยารักษาโรคอย่างต่อเนื่อง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพื่อให้แพทย์สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสุขภาพมากที่สุด
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ลบรอยสัก
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ผิวสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
- ควรใช้เสื้อผ้าที่สะอาด นุ่ม ระบายอากาศได้ดี เลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือหยาบ เพราะอาจระคายเคืองผิว
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณที่ทำเลเซอร์ลบรอยสักในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น
- หลังทำเลเซอร์ลบรอยสัก ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้ผิวเจอความร้อน เช่น การอาบแดด การซาวน่า หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออก ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำหรือรอยแผลเป็นจากการทำเลเซอร์
- หากมีสะเก็ดเกิดขึ้นบริเวณที่ทำเลเซอร์ ควรทายาตามที่แพทย์สั่ง ห้ามแกะหรือเกาสะเก็ด เพราะอาจทำให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้ ควรรอให้สะเก็ดหลุดออกเองตามธรรมชาติ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เต็มที่
- แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและมีความชุ่มชื้นเพื่อช่วยฟื้นฟูผิว และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง
- หากมีการอักเสบ บวมแดง มีน้ำเหลืองหรือหนองไหลออกมา ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินและรักษาโดยเร็ว
เลเซอร์ลบรอยสัก ราคาเท่าไหร่?
ราคาการทำเลเซอร์ลบรอยสักขึ้นอยู่กับขนาดรอยสัก จำนวนครั้งที่ต้องทำ ประเภทเลเซอร์ และสถานที่บริการ บางคลินิกมีโปรโมชันแพ็กเกจที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย นอกจากราคา ควรพิจารณามาตรฐานความปลอดภัย ความชำนาญของแพทย์ และคุณภาพเครื่องเลเซอร์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
ราคาการทำเลเซอร์ตามขนาดของรอยสัก ดังนี้
- รอยสักขนาดเล็ก เริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 – 3,000 บาท ต่อครั้ง
- รอยสักขนาดกลาง ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 7,000 บาท ต่อครั้ง
- รอยสักขนาดใหญ่ ราคาอาจอยู่ที่ 7,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
ราคาการทำเลเซอร์ตามประเภทของเลเซอร์ ดังนี้
- Picosecond Laser ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 – 15,000 บาท ต่อครั้ง เพราะเป็นเลเซอร์ที่ดีในตอนนี้ในการเลเซอร์รอยสัก
- Q-Switched Laser ราคาเริ่มต้นประมาณ ถ,000 – 7,000 บาท ต่อครั้ง
ราคาการเลเซอร์ลบรอยสักเป็นเพียงราคาเฉลี่ยเท่านั้น ควรสอบถามราคาจากคลินิกโดยตรง รอยสักขนาดใหญ่หรือสีที่ลบยากอาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่แม้ค่าใช้จ่ายจะสูง การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
เลเซอร์ลบรอยสัก ที่ไหนดี?
การเลือกสถานที่ทำเลเซอร์ลบรอยสัก จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ดังนั้น ควรพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ได้แก่
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างเข้มงวด คลินิกต้องดูแลความสะอาดของพื้นที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ควรเลือกคลินิกที่แพทย์มีประสบการณ์ด้านการลบรอยสักโดยเฉพาะ ตรวจสอบว่าแพทย์มีใบอนุญาตและมีการฝึกอบรมเฉพาะด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการรักษาอย่างปลอดภัย
- เลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเลเซอร์ทันสมัยและได้มาตรฐาน เช่น Picosecond Laser หรือ Q-Switched Laser เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและลดผลข้างเคียงได้
- คลินิกที่ให้บริการต้องมีมาตรฐานด้านความสะอาด รวมถึงการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและปัญหาสุขภาพ
- อ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ที่เคยใช้บริการ จะช่วยให้เห็นถึงคุณภาพของสถานที่ หรือสอบถามผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ สำหรับผลการรักษาก่อนและหลัง เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- เปรียบเทียบราคาจากคลินิกต่าง ๆ ดูว่ามีแพ็กเกจหรือโปรโมชั่นใดที่เหมาะสม และไม่ควรเลือกราคาถูกอย่างเดียว ควรพิจารณาคุณภาพและความปลอดภัยควบคู่ไปด้วย
- คลินิกที่ดีจะต้องให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการทำเลเซอร์ และควรมีการติดตามผลหลังการรักษา เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่ครบถ้วนตลอดการรักษา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เลเซอร์ลบรอยสัก
-
เลเซอร์ลบรอยสัก เจ็บไหม?
ระหว่างทำเลเซอร์ลบรอยสัก อาจรู้สึกเจ็บคล้ายถูกเข็มจิ้ม แต่ไม่เจ็บเท่าตอนสัก ความเจ็บอาจต่างกันไปตามความไวของแต่ละคน แต่แพทย์จะทายาชาให้ก่อนเพื่อช่วยลดความเจ็บ
-
หลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์ จะมีแผลเป็นไหม?
หลังทำเลเซอร์ลบรอยสัก จะไม่เกิดรอยแผลเป็น เพราะพลังงานเลเซอร์จะถูกส่งไปชั้นผิวหนังด้านล่างโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน แต่บางคนอาจมีสะเก็ดเล็ก ๆ เกิดขึ้นบนผิวหลังทำ จึงควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกเองโดยไม่แกะหรือเกา เพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นหรือรอยด่างบนผิว
-
หลังทำเลเซอร์ลบรอยสัก ผิวโดนน้ำได้ไหม?
หลังการทำเลเซอร์ลบรอยสัก ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์โดนน้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรก จากนั้นสามารถโดนน้ำได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรือทำให้แผลเปียก เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
-
เลเซอร์ลบรอยสักทำให้ผิวบางหรือไม่?
การทำเลเซอร์ลบรอยสักไม่ได้ทำให้ผิวบางลง เพราะเลเซอร์ไม่ได้ทำลายผิวทั้งชั้นนอกหรือชั้นใน แต่ทำงานโดยการทำให้เม็ดสีของรอยสักแตกตัวออกเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ซึ่งร่างกายจะกำจัดออกตามธรรมชาติ ทำให้ผิวไม่บางลงและไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างผิว
สรุป
สรุปแล้ว เลเซอร์ลบรอยสัก เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เจ็บน้อย เห็นผลเร็ว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ใช้ได้กับรอยสักทุกประเภท ทุกสี ทุกขนาด การลบรอยสักต้องทำหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาด สี และความลึก แต่มีผลข้างเคียงน้อย เช่น แดง บวม คัน หรือสะเก็ด ซึ่งจะหายเองตามธรรมชาติ ไม่ควรแกะหรือเกา
เลเซอร์ลบรอยสักมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่น แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญและใช้เครื่องมือมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและลดผลข้างเคียง นอกจากเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือแล้ว ผู้เข้ารับบริการต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดี