ปกภาพหน้าเว็บ รวมข้อมูล ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ราคาเท่าไหร่ อันตรายไหม

รวมข้อมูล ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ราคาเท่าไหร่ อันตรายไหม

ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึกโบ๋ มีความหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าโดยรวมของเราดูอ่อนล้าและเกินวัย แม้การแต่งหน้าปกปิด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนมิติใบหน้าจาก Volume ที่เสียไปได้ ดังนั้น ทางแก้ที่สามารถเติมเต็มใต้ตาให้กลับมาดูเต็มอิ่ม สดชื่น ไม่หมองคล้ำ นั่นก็คือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที สามารถอยู่ได้ยาวนานมากถึง 18 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ) ถ้าหากผู้อ่านกำลังเผชิญปัญหาใกล้เคียง หรือต้องการรักษาปัญหาใต้ตา สามารถติดตามได้ในบทความนี้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?

ภาพ infographic อธิบาย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปยังบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับใต้ตา เติมเต็มส่วนที่ยุบลงไปใต้ตาและฟื้นฟูผิวให้มีความกระจ่างใส ทำให้บริเวณใต้ตาดูเรียบเนียน ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวามากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไร?

Accure คือ เลเซอร์รักษาสิวที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย มีความยาวคลื่นที่ 1,726 นาโนเมตรที่จะเข้าไปทำงานเจาะจงกับต่อมไขมัน ซึ่งจะไม่ทำให้พลังงานไปกระทบกับผิวหนังบริเวณข้างเคียง ก่อให้เกิดการฝ่อตัวลง การทำงานของต่อมไขมันจึงลดประสิทธิภาพ จึงทำให้น้ำมันผลิตออกมาได้น้อยลง สิวที่เกิดจากน้ำมันและจับตัวกับฝุ่น มลภาวะ แบคทีเรียต่าง ๆ ก็น้อยลงเช่นเดียวกัน

ข้อดีข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ช้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ช่วยเติมเต็มปัญหาใต้ตาที่ลึกโบ๋ คล้ำเสีย ให้กลับมากระจ่างใส ดูมีมิติอีกครั้ง
  • สามารถลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยปรับผิวใต้ตาให้มีความเรียบเนียน
  • เป็นการแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
  • ไม่อันตราย สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้หากเกิดความผิดพลาดขึ้น
  • สามารถอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ) และจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีระยะการคงอยู่ชั่วคราว จึงทำให้เมื่อฟิลเลอร์สลายไป ต้องกลับมาเติมใหม่เรื่อย ๆ
  • บริเวณใต้ตา เป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเส้นเลือดจำนวนมาก ต้องระมัดระวังในการเลือกสถานที่ในการฉีด
  • หากใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายตามมาได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้ครอบคลุม ทำให้ใต้ดวงตาก็จะเต็มอิ่มฟู ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยต่างๆ ดูจางลง ส่งผลให้ใบหน้ามีความอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์และความเปลี่ยนแปลงหลังทำอย่างชัดเจน

ใครควรฉีดและไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ใครที่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ผู้ที่มีใต้ตาคล้ำเสีย คล้ายคนพักผ่อนน้อย
  • ผู้ที่เบ้าตาลึก มีความหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่มีร่องน้ำตา ริ้วรอยใต้ตา
  • ผู้ที่มีถุงใต้ตา ต้องการปรับให้เรียบเนียน
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องการผ่าตัด

ใครที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก มีแผลฟกช้ำง่าย
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวกลุ่มภูมิแพ้ตัวเอง เช่น โรค SLE
  • ผู้ที่มีแผลเป็นนูน คีลอยด์ แผลที่ยังไม่สมานดี บริเวณใต้ตา ควรรักษาให้หายดีก่อน
  • ผู้ที่มีประวัติรับประทานยากดภูมิ
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
  • ผู้ที่มีผิวใต้ตาบาง อาจมีโอกาสทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

ภาพ infographic อธิบาย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่ก็เป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากบริเวณใต้ตานั้นมีเส้นประสาทเส้นเลือดฝอยอยู่มาก หากปลายเข็มไปโดนเส้นเลือดเหล่านั้นอาจทำให้เกิดรอยเขียวช้ำจากการฉีดฟิลเลอร์ หรืออย่างร้ายแรงอาจเกิดความผิดพลาด ฉีดแล้วอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงบริเวณดวงตาไม่สะดวก เกิดอาการตาพร่ามัว ไปจนถึงอาการตาบอดได้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายเหล่านั้นควรเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่มีแพทย์ผู้มีฝีมือ ความรู้ ประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์เฉพาะ

ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ cc ดี?

ภาพ infographic อธิบาย ควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ cc ดี?

โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตา จะฉีดกันอยู่ประมาณ 1 cc. ต่อข้าง รวมกันเป็น 2 cc. ก็เพียงพอต่อการเติมเต็มใต้ตาให้กลับมาสวยเรียบเนียน ไม่ล้นจนเกินไป แต่ถ้าหากปัญหาเยอะ หนัก ก็อาจจะเพิ่มจำนวน cc. ได้ ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล และแพทย์วินิจฉัย

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา vs ฉีดไขมันใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และฉีดไขมันใต้ตา มีความใกล้เคียงกันในการช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตา แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ ฉีดไขมันใต้ตา เป็นการดูดไขมันจากร่างกายเราเอง นำเข้าไปเข้ากระบวนการคัดเลือกสกัดเอาส่วนที่ดีที่สุดมาใช้ในการเตรียมฉีด ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการฉีดฟิลเลอร์ ที่จะสลายไปตามอายุที่ใช้งานไม่เกิน 18 เดือน แต่ความเสี่ยงของการฉีดไขมันใต้ตา นั่นคือ ต้องมีการพักฟื้นร่างกายในบริเวณที่มีการดูดไขมันขึ้นมา เป็นผ่าตัดใหญ่ พักฟื้นนาน ยิ่งถ้าหากมีความผิดพลาด เป็นก้อน ไม่สามารถฉีดสลายได้ ต้องรอให้ไขมันสลายตัวเองเท่านั้น

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับบริการ
  • งดรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริม ที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันอาการเลือดออกมาก ผิวช้ำ เป็นต้น
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดเกิดไหลเวียนมากกว่าปกติ เช่น ออกกำลังกาย การเข้าซาวน่า เป็นต้น
  • งดการสครับผิว ครีม หรือทรีทเมนต์ ที่ทำให้ผิวเกิดอาการบาดเจ็บหรืออ่อนแอลงภายใน 24 ชั่วโมง
  • หากมีโรคประจำตัวหรือยาประจำตัวที่ต้องทานเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรงๆ บีบ กด นวด คลึง บริเวณที่ฉีด 5 – 7 วัน เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนตัวหรือผิดรูป และให้ฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัว
  • หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น การอยู่หน้าเตาร้อน, แสงแดดจัด, การใช้น้ำอุ่นล้างหน้า, การไดร์ผม(ให้ใช้ลมเย็น)
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 1 – 2 วัน
  • งดทานอาหารหมักดองในช่วง 3 – 5 วันแรก เพื่อไม่ให้เกิดอาการอักเสบ บวมช้ำ
  • งดกิจกรรมออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ ในช่วง 3 – 5 วัน
  • หลีกเลี่ยงท่านอนคว่ำหรือกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ภายใน 5 – 7 วัน เพื่อให้ฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัว

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • เข้าพบแพทย์ เพื่อประเมินปัญหา ปรึกษาความกังวลใจ เพื่อวางแผนในการฉีดฟิลเลอร์
  • เมื่อพูดคุยตกลงกันเรียบร้อย จะถูกพาไปทำความสะอาดผิวหน้า คลีนหน้าให้สะอาด
  • แปะยาชาหรือประคบน้ำแข็งอย่างน้อย 30 นาที เพื่อลดความเจ็บปวดจากการถูกเข็มแทงลงผิว
  • ก่อนขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ สามารถตรวจสอบคุณภาพฟิลเลอร์ กล่องฟิลเลอร์ ว่าเป็นของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
  • เริ่มฉีดยาชาก่อนการฉีดฟิลเลอร์ (ถ้าหากฟิลเลอร์มียาชาในตัวอยู่แล้ว อาจข้ามขั้นตอนนี้)
  • เริ่มเข้าสู่การฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาของผู้เข้ารับบริการ
  • เมื่อเสร็จแล้ว แพทย์จะแจ้งวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด และอาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ
  • สามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้เลย

เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?

ภาพ infographic อธิบาย เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี?

สำหรับที่ Amarante Clinic จะขอแนะนำฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน และมีรุ่นที่หลากหลายที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังนี้

Juvederm Volite (Skinvive) : เนื้อละเอียด บางเบา สำหรับเติมใต้ตาชั้นตื้น เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำเสีย หรือริ้วรอยใต้ตา ที่ไม่ได้มีความลึกโบ๋มาก เหมาะกับคนผิวบาง

Juvederm Voluma : เนื้อแข็ง แต่ยังมีความยืดหยุ่นสูง มีความอุ้มน้ำ ฉีดแล้วได้ความเป็นธรรมชาติ ใช้ฉีดใต้ตาชั้นลึก เพิ่มวอลุ่มสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อย ลึกโบ๋

Juvederm Volux : เนื้อแข็ง คงตัวได้ดี ใช้ฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำลึกโบ๋ หย่อนคล้อยอย่างหนัก

FAQ (คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา)

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลเลยไหม กี่วันเห็นผล?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลลัพธ์ทันที ซึ่งผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะอยู่ในช่วงหลังฉีดไปแล้ว 2 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวรไหม?

ฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้อย่างถาวร ซึ่งอายุของฟิลเลอร์จะอยู่ที่ 6 – 18 เดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีการแปะยาชา และประคบน้ำแข็งอย่างน้อย 30 นาที ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดในการฉีดลงไปได้บ้าง ซึ่งทำให้ความเจ็บที่เกิดขึ้นเป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้ และจะมีความรู้สึกตึง ๆ หน่วง ๆ ขณะทำหัตถการ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะอยู่ไม่นานเนื่องจากใช้เวลาในการทำไม่กี่นาทีเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีผลข้างเคียงไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลข้างเคียง มีเพียงแค่อาการบวมแดง รอยแดง เขียว จากการถูกเข็มฉีด เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังฉีดได้ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 3 วัน แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัส เกา กดนวด บริเวณใต้ตาที่ทำหัตถการ และรับประทานยาที่คลินิกจ่ายไปหากมีอาการบวมมาก

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีโอกาสทำให้ตาบอดไหม?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสน้อยมาที่ทำให้ตาบอด เกิดจากการที่ฟิลเลอร์นั้นเข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ทำให้เกิดอาการตามืดบอดทันที หากมีอาการให้รีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วสามารถทำหัตการอื่นได้ไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำหัตถการอื่นต่อได้ เช่น โบท็อก, Ulthera, ทรีทเมนต์หน้า, ร้อยไหม ฯลฯ ซึ่งก่อนการทำควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ที่เคยเข้ารับบริการว่าควรเรียงลำดับก่อนทำอย่างไร แนะนำควรเว้นระยะห่างหลังฉีดอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี?

แนวทางการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี จะเป็นตัวช่วยในการคัดเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และความน่าเชี่อถือ ซึ่งจะลดความเสี่ยงหรืออันตรายในการฉีดฟิลเลอร์ โดยมีเกณฑ์คัดเลือกดังต่อไป

  • คลินิกหรือสถานพยาบาลนั้นต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีที่ตั้งชัดเจน
  • มีแพทย์มากฝีมือ ความรู้ และประสบการณ์ประจำการอยู่ โดยแพทย์เหล่านั้นต้องมีใบประกอบวิชาฃีพ หรือ เลข ว. ชัดเจน เพราะคลินิกไม่สามารถทำหัตถการให้กับผู้เข้ารับบริการได้ หากไม่มีแพทย์ประจำการอยู่
  • ใช้ผลิตภัณฑ์แท้ ฟิลเลอร์แท้ ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ตัวแทนจัดจำหน่าย
  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ จากผู้ใช้บริการจริง ทั้งรูปภาพก่อนทำ-หลังทำ ไม่ผ่านการตกแต่ง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา? 

ราคาของฟิลเลอร์แตกต่างกันไปตามโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก, แต่ละยี่ห้อ/รุ่นของฟิลเลอร์ และบริเวณที่ทำหัตถการ

*ราคาเริ่มต้นโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ Amarante Clinic

  • Juvederm Volite ราคา 1 cc. 14,900
  • Juvederm Vobella ราคา 1 cc. 14,900
  • Juvederm Volift ราคา 1 cc. 14,900
  • Juvederm Voluma ราคา 1 cc. 14,900
  • Juvederm Volux ราคา 1 cc. 16,900

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว

กดแอดไลน์ปรึกษาคุณหมอ
ส่งข้อความปรึกษาคุณหมอ

ช่องทางติดต่อสำหรับลูกค้าที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Amarante Clinic 

สำหรับผู้ที่สนใจในการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยากให้ลองเปิดใจที่ Amarante Clinic เราให้คำปรึกษาด้วยความจริงใจ และเข้าใจถึงปัญหาที่กังวลของผู้เข้ารับบริการ พร้อมกับวางแผนการรักษาให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล ดูแลโดยแพทย์มากฝีมือที่มีทั้งความรู้กายวิภาคและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ที่สำคัญ ฟิลเลอร์ทุกกล่องเป็นของแท้ ตรวจสอบได้ ถ้าหากต้องการทำฟิลเลอร์ใต้ตา หรือเข้ารับการปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือนัดจองคิวได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้ได้เลย ทักตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษรอคุณอยู่!

🚩อย่าลืมแอดไลน์ http://bit.ly/3ZYmsMB เพื่อที่จะไม่พลาดโปรโมชั่นสุดพิเศษนะคะ

😄 หรือสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

✅ Line คลิก > http://bit.ly/3ZYmsMB

✅ Inbox Facebook คลิก > http://bit.ly/3TrFOr0

✅ Instagram คลิก > http://bit.ly/3Z20siT

📍สาขาอารีย์ : อาคารบ้านยสวดี (BTS อารีย์ ทางออกที่ 3)

📞080-393-6669

📍สาขาบางนา : For You Park

📞080-556-5294

📍ทั้ง 2 สาขา มีที่จอดรถ สะดวกสบาย

🕘เปิดให้บริการทุกวัน : 11.00-20.00 น.