ฟิลเลอร์ปลอม อุทาหรณ์ฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

“ไม่คิดว่าครั้งนึงในชีวิตจะตกนรกทั้งเป็นแบบนี้ เพราะ ฟิลเลอร์ปลอม ” เป็นคำพูดที่คุณเพ็ญ คนไข้เจ้าของเคสพูดทั้งน้ำตา

เคสนี้คุณเพ็ญเป็นคนไข้ ฉีด ฟิลเลอร์ปลอม กับหมอกระเป๋ามาได้ 3 วัน มีอาการใบหน้าบวมช้ำ มีหนอง และอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปหาหมอหลายที่ ไม่มีที่ไหนรับ จึงหาข้อมูลแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์

โดยตรง และรีบเข้ามารักษาอย่างเร่งด่วนที่อะมารันเต้คลินิกวันนั้นทันที โดยคุณเพ็ญเล่าเคย ฉีดฟิลเลอร์ กับหมอกระเป๋า มาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร จนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ได้ไปฉีดฟิลเลอร์กับคนรู้จัก ซึ่งเป็น หมอกระเป๋า ที่ฉีดกันเป็นประจำคนเดิม ซึ่งก็ไว้ใจ จนครั้งนี้ ตอนฉีด รู้สึกเจ็บและแสบมากกว่าปกติ แต่ยังไม่ได้เอะใจอะไร

วันที่ 1 หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

คืนวันที่18 พ.ค. หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าเสร็จ เริ่มมีอาการน้ำมูก น้ำตาไหล ด้านขวาของใบหน้า หายใจได้แค่ด้านขวา

วันที่ 2 หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่ 19 อาการแย่ลงเรื่อยๆ เริ่มมีหนองขึ้นบริเวณจมูก ทั้งด้านในและด้านนอก หน้าเริ่มบวม ปากบวมไปทั้งซีกซ้าย จากหน้าแดงก่ำกลายเป็นใบหน้าเริ่มม่วง ช้ำเลือด ช้ำหนอง จนทำให้ตอนนั้นคุณเพ็ญไม่กล้าออกไปไหน โดยบอกว่า ตนเองนั่งในห้องมืดๆ ไม่กล้าติดต่อใครเลย มองกระจกและร้องไห้ตลอด เพราะใบหน้าไม่เหลือเค้าโครงความเป็นตัวเองแล้ว

วันที่ 3 หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่ 20 อาการยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ร้องไห้ตลอดเวลา ความเครียดเพิ่มมากขึ้น เพราะมีหนองเยอะขึ้น ลามไปถึงใต้ตา หน้าบวมไปทั้งหน้า เริ่มพูดไม่ได้ และมีอาการปวดร้าวไปทั้งใบหน้า

คุณเพ็ญเล่าต่อว่า ไม่เคยคิดเลยว่าหลายคลินิกที่บอกว่าช่วยให้สวย ช่วยแก้ไขรักษานั่นนี่ได้ เจอหน้าและอาการของคุณเพ็ญเข้าไป กลับไม่มีคลินิกที่ไหนรับรักษา ตอนนั้นเองที่รู้ลึกเจ็บตัวและเจ็บใจ โกรธตัวเองที่ไปฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า ร้องไห้หนัก รับตัวเองไม่ได้ กลัวเสียโฉม กลัวตาบอด เพราะอาการปวดเริ่มขึ้นมาถึงเบ้าตา

จนน้องสาวมาช่วยหาว่ามีที่ไหนอีกบ้างที่จะรับรักษา และน้องสาวแนะนำว่าที่อะมารันเต้คลินิก (Amarante Clinic) มีชื่อเสียงเรื่องฉีดฟิลเลอร์ และแก้ไขฟิลเลอร์ ตนเองจึงตัดสินใจให้น้องสาวส่งข้อความมาที่ อะมารันเต้คลินิก

โดยคุณเพ็ญเล่าว่า ตอนนั้นน้องสาวได้ทักแชทไปถาม และส่งรูปไปให้ทางคลินิกดูว่ารักษาได้ไหม หรือมีที่ไหนที่แนะนำให้ไปรักษาได้บ้าง ซึ่งน้องสาวต้องเป็นคนพูด พิมพ์ สื่อสารแทนตัวคุณเพ็ญที่ไม่สามารถสื่อสารเองได้แล้ว ทางคลินิกแจ้งว่าให้คุณหมอดูอาการเบื้องต้นผ่านรูปทันที จนคุณหมอบอกให้รีบเข้ามาที่คลินิกเลย “มันเหมือนเราได้เจอที่ที่พร้อมรักษาเรา ในขณะที่คนอื่นปฏิเสธ และมารู้ทีหลังว่าโชคดีที่เจอคุณหมอต้น เพราะคุณหมอเป็นแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ Juvederm อเมริกา และมีประสบการณ์ด้านความงามมาเกือบ 20 ปี ที่เข้าเวรวันนั้นพอดี” คุณหมอต้นเริ่มตรวจและซักประวัติ และได้เริ่มต้นรักษา หลังรักษาอาการเริ่มดีขึ้น สามารถอ้าปากทานข้าวได้ เริ่มกลับมาพูดได้ หลังจากนั้นก็กลับมารักษาเรื่อยๆ และใน 7 วันก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ

วันที่ 1-2 ของการรักษา (หลัง แก้ไขฟิลเลอร์ปลอม ) เคสฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่ 3-4 ของการรักษา เคสฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่ 5-6 ของการรักษา เคสฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่ 4 ของการรักษา เคสฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

วันที่7 ของการรักษา เคสฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า

หลังยิงเลเซอร์รักษาร่วม (2 ครั้ง) ทำให้รอยดำ จากรอยแผล เป็นจางลงอย่างเห็นได้ชัด

เคสคุณเพ็ญนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับการเลือกฉีดฟิลเลอร์ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะโชคดี ดังนั้น ควรเลือกฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นสำคัญ เลือกยาหรือฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานผ่านอย. และ ฉีดในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น

ฟิลเลอร์ราคาที่ถูกมากไปยิ่งต้องระวัง หรือบางครั้งราคาไม่ได้ถูก แต่เป็นของปลอมสามารถเจอได้หลายเคส ดังนั้น อย่าหลงเชื่อราคาโปรโมชั่นที่ถูกมากหรือการโฆษณาที่โอ้อวดจนเกินไป ฟิลเลอร์มีประโยชน์มาก สร้างความสวย สร้างความมั่นใจ สร้างความสุข ถึงกับเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นก็ยังได้ แต่จะทำอย่างไรให้ความสวยและควบคู่ไปกับความปลอดภัย

ขอขอบคุณคุณเพ็ญมากๆ นะคะ ที่อนุญาตให้นำรูปและเรื่องราวมาเปิดเผย เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลอื่นต่อไป