รูปหน้าจะเรียวสวยดูดีได้ คางเป็นตัวกำหนดที่สำคัญ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมการฉีดฟิลเลอร์คางถึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง สำหรับใครที่มีข้อสงสัยต่างๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม อันตรายหรือไม่ ฉีดกี่ CC ราคาเท่าไหร่ หลังฉีดต้องดูแลตัวเองอย่างไร ทาง Amarante Clinic ก็ได้นำข้อมูล พร้อมรีวิวจากเคสจริงมาให้ชมกันแล้ว
สารบัญ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์คางคืออะไร
ฟิลเลอร์คาง (Chin Filler) คือสารเติมเต็มผิวใกล้เคียงธรรมชาติประเภทกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ฉีดเข้าไปในบริเวณคาง เพื่อช่วยแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด คางถอย คางหลุบ คางบุ๋ม คางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ทำให้รูปหน้าดูเรียวละมุนได้สัดส่วนขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณคางได้ด้วย
ฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม เหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาของใบหน้าได้สารพัด รวมถึงช่วยปรับรูปหน้าให้ละมุนได้ดังใจ ลองมาดูกันดีกว่าว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คางนั้นจะเหมาะกับใครเป็นพิเศษบ้าง
1. ผู้ที่มีคางสั้น คางถอย คางหลุบ ทำให้ใบหน้าดูกลม
ใบหน้ากลม ดูไม่มีมิติ จะหันไปทางไหนก็กลมไปหมด ทำให้หามุมถ่ายรูปลำบาก บางคนก็แก้ปัญหาด้วยการเอาผมมาปิด แต่ก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ในผู้ที่มีคางสั้น คางถอย หรือคางหลุบ แม้จะมีน้ำหนักตัวน้อยก็ตาม ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์คางก็อาจเป็นทางออกที่น่าสนใจ
2. ผู้ที่มีคางตัด คางบุ๋ม ขาดความละมุน
คางตัด คือลักษณะปลายคางที่ไม่มีความมน ทำให้ใบหน้าดูแข็ง เหลี่ยม ขาดความละมุน ส่วนคางบุ๋ม คือลักษณะคางที่มีร่องตรงกลาง ทำให้ดูขรุขระ ไม่เรียบ และอาจยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อแสดงสีหน้า ผู้ที่มีปัญหาคางเหล่านี้หากฉีดฟิลเลอร์คาง ก็จะช่วยให้คางดูสมส่วน ละมุน ได้รูป และรับกับใบหน้าดีขึ้น และในบางรายก็อาจช่วยลดความดุบึ้งของใบหน้าได้ด้วย
3. ผู้ที่มีคางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน
ปัญหาคางเบี้ยว คางไม่เท่ากัน ถือเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลายิ้มหรือเวลาถ่ายรูป ซึ่งในกรณีที่ไม่ได้เป็นหนักจนเกินไป การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก ในการช่วยปรับทรงคางให้ดูสมดุลขึ้น
4. ผู้ที่ต้องการเสริมคางโดยไม่ต้องผ่าตัด
การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะด้วยกลัวการผ่าตัด กลัวเลือด กลัวเจ็บ ไม่มีเวลาพักฟื้น หรือต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว
อ่านเพิ่มเติม : ปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางถอย แก้ไขอย่างไรให้สวยดูดี
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- คางได้รูป หน้าเรียวสวยขึ้น เห็นผลทันทีหลังฉีด
- เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- สามารถปรับเปลี่ยนตามเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนไปได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ไม่ได้คงอยู่ถาวร
- หากฉีดฟิลเลอร์แล้วยังไม่พอใจรูปคาง ก็สามารถฉีดเพิ่มได้ในกรณีที่ขาด หรือในกรณีที่คางยาวหรือใหญ่เกินไป ก็สามารถฉีดสลายได้
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- การฉีดฟิลเลอร์คางจะอยู่ได้เพียง 6 เดือน – 2 ปี ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย)
- หากฉีดโดยแพทย์ที่ขาดความชำนาญ ฉีดผิดจุดผิดชั้นผิดตำแหน่ง หรือใช้ปริมาณมากเกินไป ก็จะสามารถทำให้คางผิดรูป หรือฟิลเลอร์ไหลย้อยลงมาใต้คางได้
ฉีดฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดเสริมคาง เลือกทำหัตถการไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์คางกับการเสริมคาง แม้จะทำเพื่อหวังผลให้คางสวยเข้ากับรูปหน้าเหมือนกัน แต่ก็จะมีข้อดีข้อเสีย และความเหมาะสมต่อปัญหาที่ต่างกัน ผู้ที่กำลังพิจารณาว่าจะทำหัตถการไหนดี ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน และควรให้แพทย์ช่วยประเมินรวมถึงให้คำแนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อดีคือ ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด ไม่ต้องรอพักฟื้นนานกว่าจะเข้าที่ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ และโดยทั่วแล้วจะมีความปลอดภัยสูงกว่าการผ่าตัดเสริมคาง
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะมีข้อจำกัดตรงที่ให้ผลไม่ถาวร เพราะฟิลเลอร์จะสลายตัวตามธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องมีการเติมซ้ำทุกๆ 6 เดือน – 2 ปี (บางคนอาจมองเป็นข้อดี เพราะสามารถเลือกรูปคางใหม่ได้) และในบางเคสที่มีปัญหาหนัก เช่น คางสั้นมาก คางเบี้ยวมาก การฉีดฟิลเลอร์คางก็อาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ เทคนิคที่ใช้และความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็เป็นอีกสิ่งที่มีผลเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์เฉพาะแค่ที่คาง ในหลายเคสก็อาจไม่ได้รูปหน้าที่สวยละมุนเป็นธรรมชาติเท่าการฉีดที่ไล่ต่อเนื่องมาตั้งแต่แนวขากรรไกร ซึ่งเทคนิคนี้จะมีชื่อเรียกว่า Royal Chin Lift เป็นเทคนิคเฉพาะที่ใช้โดย Amarante Clinic จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ และจะต้องอาศัยการวิเคราะห์รูปหน้าอย่างละเอียด
ผ่าตัดเสริมคาง
การผ่าตัดเสริมคางจะให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ถาวร และจะเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ที่มีปัญหารุนแรง เช่น มีคางสั้นมากหรือเบี้ยวมาก แต่ในทางกลับกัน ก็จะต้องพักฟื้นนานกว่าจะเข้าที่ มีความเสี่ยงสูงกว่าการฉีดฟิลเลอร์ และในกรณีที่ต้องการปรับรูปคางเพิ่มในภายหลังก็จะทำได้ยากกว่า ต้องมีการพักฟื้นและดูแลรักษาแผลอย่างดีอีกรอบ
ผู้ที่เกิดแผลเป็นหรือคีลอยด์ง่าย จะไม่เหมาะกับการผ่าตัดเสริมคางแบบผ่าด้านนอก ควรเลี่ยงไปผ่าแบบด้านในแทน และก็ควรดูแลความสะอาดของช่องปากในช่วงพักฟื้นให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อ
เสริมคางมาแล้วฉีดฟิลเลอร์คางได้ไหม
หลายๆ คนอาจสงสัยว่า หากผ่าตัดเสริมคางมาแล้วจะฉีดฟิลเลอร์คางได้ไหม ก็ต้องตอบว่า “สามารถฉีดได้ในบางเคส” จุดนี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วย ทางที่ดีก็ควรให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ทำการประเมิน ในบางเคส การถอดซิลิโคนเก่าออก แล้วทำการเสริมใหม่โดยใช้ทรงซิลิโคนที่ต้องการ ก็อาจเหมาะสมกว่า หรือถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นฉีดฟิลเลอร์คางแทน ก็ควรพักหน้าหลังถอดซิลิโคนคางออกประมาณ 2-3 เดือนก่อน
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง
เพื่อความปลอดภัย ผู้ที่จะฉีดฟิลเลอร์คางก็ควรเตรียมตัวก่อนฉีดดังนี้
- งดยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแน็ก นาพร็อกเซน ไพร็อกซิแคม เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการฟกช้ำ
- งดอาหารเสริมที่มีฤทธิ์รบกวนการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียมสกัด โสมสกัด ใบแปะก๊วยสกัด น้ำมันพริมโรส น้ำมันปลา วิตามินอี และ St. John’s Wort เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- งดการรบกวนผิวบริเวณคาง เช่น แว็กซ์ขน ดึงขน โกนขน ขัดผิว ทายาหรือใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 3 วันก่อนฉีด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกาย อบไอน้ำ ซาวน่า ก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- แจ้งข้อมูลแพทย์ให้ครบถ้วนแต่เนิ่นๆ ซึ่งได้แก่ ประวัติการทำหัตถการที่ผ่านมา ประวัติการแพ้ โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ใช้ เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินและให้คำแนะนำในการเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ก็จะมีข้อแนะนำการดูแลตัวเองและข้อห้ามดังต่อไปนี้
- รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังฉีด
- ดูแลร่างกายให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ทั้งจากอาหารและน้ำดื่ม เพราะฟิลเลอร์จะอาศัยการจับกับโมเลกุลน้ำ เพื่อให้อิ่มฟูได้รูปและสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน
- เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะด้วยมือหรือสิ่งอื่น เช่น แกะ เกา นวด เท้าคาง บีบสิว ปั้นทรงคางด้วยตัวเอง ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- เลี่ยงการขยับคางเยอะ เช่น การยิ้มกว้าง อ้าปากกว้าง ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อเลี่ยงการรบกวนฟิลเลอร์
- เลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ภายในช่วง 2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ อย่างน้อย 2 วันหลังฉีด เพราะจะทำให้ช้ำง่ายขึ้น และอาจทำให้ขาดสติในการควบคุมดูแลตัวเอง
- งดใช้ยาหรือสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว ภายในช่วง 3 วันหลังฉีด เพราะอาจทำให้ผิวคัน แสบ หรือระคายเคือง
- เลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อน เช่น โดนแดด น้ำอุ่น น้ำร้อน ไดร์เป่าผม ซาวน่า ชาบู หมูกระทะ ไอจากการทำอาหาร ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด
- เลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง ภายในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฉีด เพื่อป้องกันปัญหาฟิลเลอร์เคลื่อน แนะนำให้นอนหงายโดยใช้หมอนกั้นด้านข้างทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันการพลิกตัว
- เลี่ยงการแว็กซ์ขนหรือทำหัตถการบริเวณคาง ภายในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีด หากมีความจำเป็นจริงๆ ให้ปรึกษาแพทย์อย่างถี่ถ้วนเสียก่อน
- อาจประคบเย็นเมื่อมีอาการบวม โดยใช้ Cool Pack หรือผ้าสะอาดห่อถุงน้ำแข็ง
ฉีดฟิลเลอร์คางกี่วันเข้าที่
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์คางจะเริ่มเห็นผลได้ทันที แต่จะเข้าที่เต็มที่ภายใน 7-14 วันหลังฉีด อาการข้างเคียงชั่วคราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบางคน เช่น บวม แดง ช้ำ หรือปวด ก็มักจะหายดีภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้
ฉีดฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานไหม
ฟิลเลอร์คางเมื่อฉีดแล้ว จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยบางชนิด บางรุ่น บางยี่ห้อ ก็จะสลายตัวช้ากว่า
- เทคนิคการฉีด การฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นผิดตำแหน่ง ก็อาจมีผลกระทบต่อการคงอยู่ของฟิลเลอร์ได้
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะมีความยืดหยุ่นลดลง และการสร้างคอลลาเจนก็จะช้าลง ส่งผลให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานลดลงตามไปด้วย
- เมตาบอลิซึม ร่างกายของบางคนอาจมีการเผาผลาญเปลี่ยนสภาพสารต่างๆ รวมถึงฟิลเลอร์ที่เร็วกว่าคนอื่น ส่งผลให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานลดลง
- การใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างอาจมีส่วนช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เช่น การหมั่นดูแลไม่ให้ผิวแห้ง การทาครีมกันแดด การเลี่ยงแดดจัด การดื่มน้ำให้เพียงพอ การงดสูบบุหรี่ เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์คางอันตรายไหม
เนื่องจากกรดไฮยาลูรอนิคจะเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในผิว ทั้งยังสามารถสลายได้เอง การฉีดฟิลเลอร์คางจึงนับว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้ด้วย
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. การใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่มักจะผลิตจากสารแปลกปลอมที่มีราคาถูก จะก่อให้เกิดผลเสียและอันตรายต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ฟิลเลอร์ย้อย บริเวณที่ฉีดเป็นคลื่น ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เกิดเนื้อตาย เส้นเลือดอุดตัน เป็นต้น ซึ่งในกรณีที่ยังไม่ได้ร้ายแรงมาก ก็อาจแก้ไขได้ด้วยการขูดฟิลเลอร์ปลอมออก
- แพทย์ต้องมีความชำนาญ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในแทบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินปัญหา การให้ข้อแนะนำการเตรียมตัว การเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ การฉีดด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ตลอดจนการแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดและการติดตามผล ในกรณีที่แพทย์ขาดความชำนาญ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน เช่น ฉีดผิดชั้นผิดตำแหน่งจนเกิดเป็นก้อนบวม ฉีดโดนเส้นเลือดทำให้เกิดการอุดตัน เป็นต้น
ฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี
การเลือกยี่ห้อของฟิลเลอร์คางที่จะฉีด โดยพื้นฐานแล้ว จะต้องพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ผ่านการรับรองจาก อย. มาจากบริษัทที่มีมาตรฐานสูง มีประวัติการดำเนินงานที่ดี มีชนิดของฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของแต่ละเคส ตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้นๆ ในระดับสากลก็อย่างเช่น
- Juvederm จากสหรัฐอเมริกา โดยจะมีรุ่นที่นิยม เช่น Voluma, Volift, Vobella, Volite และ Volux
- Restylane จากประเทศสวีเดน โดยจะมีรุ่นที่นิยม เช่น Volyme, Vital, Vital light และ Lyft
ฉีดฟิลเลอร์คางต้องกี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับแต่ละเคส โดยจะแบ่งตามจุดฉีดได้คร่าวๆ ดังนี้
- บริเวณ Jawline ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC โดยจะฉีดในส่วนของกรอบหน้า ตั้งแต่บริเวณสันกรามไล่ไปจนถึงรอยต่อของคาง เพื่อให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น และรับกับคางได้ดี
- บริเวณคาง ใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC โดยแพทย์จะประเมินก่อนฉีด เพื่อให้มีความต่อเนื่องกัน ตั้งแต่บริเวณขมับ กรอบหน้า มาจนถึงบริเวณคาง ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูละมุน เป็นธรรมชาติ เข้ากันทุกสัดส่วน
ราคาฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คางจะคิดราคาเป็นต่อ 1 CC หากผู้รับบริการมีปัญหาที่ต้องใช้ฟิลเลอร์เยอะ ราคาก็จะต้องสูงขึ้นตาม โดยจะคิดได้ด้วยการคูณราคาต่อหน่วยเข้าไป เช่น หากราคาฟิลเลอร์อยู่ที่ 15,000 บาทต่อ 1 CC ในกรณีที่ต้องฉีด 3 CC ก็จะคิดเป็นราคาทั้งสิ้น 45,000 บาท
ทั้งนี้ ราคาของฟิลเลอร์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลากหลายองค์ประกอบ เช่น
- ราคาต้นทุนฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติรวมถึงมีคุณภาพที่ต่างกัน ปัจจัยนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาให้ต่างกันตามไปด้วย กรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกผิดปกติ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะได้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้รับบริการโดยเฉพาะในระยะยาว
- ต้นทุนสถานพยาบาล เครื่องมือ และการดำเนินงาน การฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องอาศัยมาตรฐานที่ดี ทั้งในแง่ของสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนพนักงานผู้ให้บริการ กรณีที่ขาดมาตรฐานอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจก่อให้เกิดผลเสียได้ เช่น พนักงานให้บริการผิดพลาดจนเกิดอันตราย เกิดการติดเชื้อจากมาตรฐานอนามัยที่ไม่ดี เป็นต้น
- ค่าแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ ดังที่ทราบกัน แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์จะมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์และความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์ กรณีที่แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญก็อาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ฉีดผิดตำแหน่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาคางย้อย คางไม่เรียบ คางเป็นก้อน เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์คางที่ไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์คาง หากจะให้ปลอดภัยและได้ผลดี ก็ควรเลือกคลินิกที่มีคุณสมบัติดังนี้
- คลินิกได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย ไม่ใช่คลินิกเถื่อน หรือมีลักษณะการดำเนินงานไม่ตรงกับที่จดแจ้ง
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไม่ใช่ฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์เถื่อน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้รับบริการ
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่แพทย์ที่ขาดประสบการณ์ หรือแย่ไปกว่านั้นคือแพทย์เถื่อน เพราะความปลอดภัยและผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ จะถูกกำหนดโดยความรู้ความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการเป็นหลัก
- มีรีวิวการฉีดฟิลเลอร์คาง รีวิวจากผู้รับบริการจะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีถึงความเชี่ยวชาญของแพทย์ในด้านนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
- มีความจริงใจต่อผู้รับบริการ โดยอาจสังเกตได้จากการให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ไม่ยัดเยียดขายบริการที่ไม่จำเป็น
รีวิวฉีดฟิลเลอร์คางที่ Amarante Clinic
Amarante Clinic ภายใต้การดูแลของคุณหมอต้น นพ. สฤษดิ์ ตันติอภิชาต ผู้ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ ตำแหน่ง AMI Trainer ประจำประเทศไทย ทางคลินิกใส่ใจทุกรายละเอียดเริ่มตั้งแต่แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน การให้บริการที่จริงใจ รูปรีวิวไม่บิดเบือนผลการรักษา ตลอดจนการแจ้งราคาก่อนรับบริการอย่างตรงไปตรงมา จนได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการเป็นจำนวนมาก ทำให้คลินิกมียอดการใช้ฟิลเลอร์ติดอันดับท็อปของประเทศไทยทุกปี